คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความพิพาทกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์อ้างว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้และโจทก์ได้ครอบครองตลอดมา จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทายาทและได้รับมรดก แต่ได้ให้โจทก์ดูแลแทน คู่ความรับกันว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีนั้นว่าได้ไปที่บ้านผู้ตายเพื่อทำพินัยกรรม แต่ผู้ตายไม่รู้สึกตัวจึงไม่ได้ทำพินัยกรรม ข้อความที่จำเลยเบิกความนี้ ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้จะเป็นความเท็จ ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเบิกความเท็จในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๑๐๖/๒๕๐๗ ของศาลจังหวัดราชบุรีว่า จำเลยไปบ้านนางเทศเพื่อจะทำพินัยกรรม แต่เมื่อไปถึงแล้วไม่ได้ทำเพราะนางเทศไม่มีสติ ต่อมาอีกไม่กี่วันนางเทศก็ตาย ความจริงแล้วจำเลยไม่เคยไปบ้านนางเทศเพื่อจะทำพินัยกรรมเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ , ๘๓
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ ๒ ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำเบิกความของจำเลยทั้งสอง แม้จะฟังเป็นความเท็จก็ไม่ใช่สารสำคัญในคดี ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๑๐๖/๒๕๐๗ ของศาลจังหวัดราชบุรีนั้น ได้ความว่าโจทก์ฟ้องนางน้อยกับพวกเป็นจำเลยเรื่องที่ดิน โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นบุตรบุญธรรม แต่ไม่ได้จดทะเบียนของนางเทศ นางเทศยกที่พิพาทให้โจทก์ เมื่อนางเทศตาย โจทก์ได้ครอบครองมากว่า ๒ ปีแล้ว ส่วนจำเลยให้การว่า นางเทศไม่ได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ จำเลยเป็นทายาทโดยชอบธรรมของนางเทศ นางเทศตาย ที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่จำเลย จำเลยมอบให้โจทก์ดูแลแทน ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่านางเทศยกที่พิพาทให้โจทก์ และโจทก์ได้ครอบครองมา จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี คดีถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น
ในคดีดังกล่าวข้อเท็จจริงรับกันว่า นางเทศไม่ได้ทำพินัยกรรม โจทก์สืบว่าเหตุที่นางเทศไม่ได้ทำพินัยกรรมก็เนื่องจากนายโทนสามีโจทก์ไปตามจำเลยที่ ๑ ให้มาช่วยทำพินัยกรรมให้แล้ว จำเลยที่ ๑ ไม่มาตามนัด แต่จำเลยที่ ๑ เบิกความเป็นพยานให้นางน้อยว่าได้ไปที่บ้านนางเทศแล้ว แต่นางเทศสติไม่ดีจึงไม่ได้ทำ โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในข้อที่ว่าความจริงจำเลยไม่ได้ไปที่บ้านนางเทศ แล้วเบิกความว่าไป ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ข้อความที่จำเลยเบิกความนั้นเป็นเท็จ ก็ไม่มีผลแปลงรูปคดีแต่อย่างใด เพราะทั้งสองฝ่ายก็รับกันอยู่แล้วว่า นางเทศไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อความดังกล่าวก็ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ฉะนั้น ข้อความที่จำเลยเบิกความนั้นจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแต่เพียงใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.

Share