คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้ตามคำฟ้องจะระบุว่า ช. เป็นผู้เสียหาย แต่ในคำฟ้องก็มีข้อความต่อไปว่าลิขสิทธิ์ตามฟ้องเป็นของ ม. สำหรับดนตรีกรรม เพลง “พี่ชาย” และ ค. สำหรับดนตรีกรรมเพลง “ลมเพ ลมพัด, โมรา และรอยทาง” ส่วนในความตอนท้ายของคำฟ้องก็มีข้อความว่าผู้เสียหายซึ่งคือ ช. ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนโดยท้ายคำฟ้องโจทก์ได้อ้างสัญญาซื้อขายสิทธิมาด้วย ซึ่งถือว่าสัญญาซื้อขายสิทธิดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง และในข้อ 7 ของสัญญาซื้อขายสิทธิระบุว่า เจ้าของลิขสิทธิ์คือ ม. และ ค. ได้ตกลงให้ ช. เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความทุกข์ รวมทั้งมีสิทธิมอบอำนาจช่วง ดังนี้การร้องทุกข์โดยผู้เสียหายคือ ช. ต่อพนักงานสอบสวนตามคำบรรยายฟ้องจึงถือได้ว่าคดีมีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 5, 6, 15, 27, 28, 69, 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 และสั่งจ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นว่า ปรากฏตามคำฟ้องว่านายชัยวุทธิ์หรือชัยสิรัตน์ ตรึกตรอง เป็นเพียงผู้ได้รับสิทธิในการเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์จากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น นายชัยวุทธิ์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) เมื่อผู้เสียหายที่แท้จริงมิได้ร้องทุกข์โดยชอบต่อพนักงานสอบสวนในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว พนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คดีนี้มีการร้องทุกข์โดยชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า แม้ตามคำฟ้องจะระบุว่า นายชัยวุทธิ์หรือชัยสิรัตน์ ตรึกตรอง เป็นผู้เสียหายแต่ในคำฟ้องก็มีข้อความต่อไปว่าลิขสิทธิ์ตามฟ้องเป็นของนายมณเฑียร แสงสุวรรณสำหรับดนตรีกรรม เพลง “พี่ชาย” และนายคฑาวุธ ทองไทย สำหรับดนตรีกรรมเพลง “ลมเพ ลมพัด, โมรา และรอยทาง” ส่วนในความตอนท้ายของคำฟ้องก็มีข้อความว่า ผู้เสียหายซึ่งคือนายชัยวุทธิ์หรือชัยสิรัตน์ ตรึกตรอง ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนโดยท้ายคำฟ้องโจทก์ได้อ้างสัญญาซื้อขายสิทธิมาด้วย ซึ่งถือว่าสัญญาซื้อขายสิทธิดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง และในข้อ 7 ของสัญญาซื้อขายสิทธิระบุว่า เจ้าของลิขสิทธิ์คือนายมณเฑียร แสงสุวรรณ และนายคฑาวุธ ทองไทย ได้ตกลงให้นายชัยวุทธิ์หรือชัยสิรัตน์ ตรึกตรอง เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์รวมทั้งมีสิทธิมอบอำนาจช่วง ดังนี้ การร้องทุกข์โดยผู้เสียหายคือ นายชัยวุทธิ์หรือชัยสิรัตน์ ตรึกตรอง ต่อพนักงานสอบสวนตามคำบรรยายฟ้องจึงถือได้ว่าคดีมีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์โดยชอบ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง เมื่อฟังว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องแล้ว แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยังมิได้พิจารณาการกระทำความผิดของจำเลยตามฟ้อง จึงเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษาเสียก่อน”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share