แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำอย่างไรเป็นการครอบครองหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ตามประมวลรัษฎากรเป็นเรื่องบัญญัติว่าบุคคลเช่นไรมีหน้าที่จะต้องเป็นผู้เสียภาษีหาใช่ว่าบุคคลเช่นนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทมา โจทก์ยื่นคำร้องต่ออำเภอขอขายที่ดินนี้ จำเลยคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์ ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร กับห้ามอย่าให้จำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ๆ ครอบครองมาทุกปีชั้นพิจารณา โจทก์จำเลยท้ากันว่า ให้ศาลเรียกนายจีนกำนันมาเป็นพยานคนกลาง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามคำนายจีนพยานฟังได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทำกินในที่พิพาทมาฝ่ายเดียว โจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองคดีจึงสมประเด็นฝ่ายจำเลยที่ท้ากัน พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1367 และประมวลรัษฎากรที่โจทก์ยกขึ้นโต้เถียงมาต้องฟังว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทตรงตามประเด็นที่ท้ากัน โจทก์จึงควรชนะคดี
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่และว่าประเด็นที่ท้าเอาแพ้ชนะกันในคดีนี้เป็นประเด็นในข้อเท็จจริงว่าใครเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทภายหลังที่นายคงเจ้าของตายแล้วซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่านายจีนพยานเบิกความสมจำเลยว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาท โจทก์มิได้ครอบครอง หาใช่ท้ากันว่าการกระทำอย่างไรเป็นการครอบครองหรือไม่ อันเป็นประเด็นหารือบทฉะนั้นจำเลยจึงเป็นผู้ชนะคดีตามที่ท้ากัน ที่โจทก์ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 ขึ้นอ้างนั้น มาตรานี้ก็บัญญัติถึงบุคคลที่ยึดถือครอบครองที่ดินอยู่ โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทมาตรานี้จึงไม่สนับสนุนโจทก์ ส่วนประมวลรัษฎากรที่โจทก์อ้างก็เป็นเรื่องบัญญัติว่าบุคคลเช่นไรมีหน้าที่จะต้องเป็นผู้เสียภาษีหาใช่ว่าบุคคลเช่นนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทไม่ศาลฎีกาพิพากษายืน