คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2062/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ให้พนักงานทั่วไปทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน และมีวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 วัน คือวันอาทิตย์ การที่โจทก์ให้พนักงานบางแผนกหยุดสลับกันในวันเสาร์โดยมิได้ประกาศหรือมีคำสั่งว่าวันเสาร์เว้นวันเสาร์เป็นวันหยุดแต่อย่างใดยังถือไม่ได้ว่า โจทก์มีเจตนาเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยให้วันเสาร์เว้นวันเสาร์เป็นวันหยุดสัปดาห์เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างการที่โจทก์ประกาศให้ลูกจ้างมาทำงานทุกวันเสาร์ จึงเป็นการสั่งให้ลูกจ้างปฏิบัติงานในวันทำงานตามปกติ ลูกจ้างย่อมไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยซึ่งเป็นพนักงานตรวจแรงงานที่มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดแก่ลูกจ้างของโจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์มีข้อตกลงให้ลูกจ้างทำงานในวันเสาร์เว้นเสาร์แต่ต่อมาโจทก์มีคำสั่งให้ลูกจ้างมาทำงานในวันเสาร์ทุกเสาร์ โจทก์จึงต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดวันเสาร์แก่ลูกจ้างของโจทก์ คำสั่งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว และนางอิงอรทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์ โดยมีข้อตกลงว่าให้มีวันหยุดในวันเสาร์เว้นวันเสาร์และวันอาทิตย์ในแต่ละสัปดาห์ ต่อมาโจทก์ได้ให้ลูกจ้างทั้งสามมาทำงานในวันเสาร์ทุกวันโดยจ่ายเงินเพิ่มให้เดือนละ 200 บาท ลูกจ้างทั้งสามเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน จึงยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัดนครปฐม จำเลยในฐานะพนักงานตรวจแรงงาน ลงวันที่ 16มกราคม 2544 สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานที่ 2/2544 ให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดแก่ลูกจ้างทั้งสาม คำสั่งขอจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานที่ 2/2544 ลงวันที่ 16 มกราคม 2544 ของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า คำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ที่ 2/2544 ลงวันที่ 16 มกราคม2544 ที่ให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดแก่นายจักรพงษ์ ผ่องสุภาพ นางสาวศิริ รัตน์ ศักดิ์มงคล และนางอิงอร หนูเอียด (สกุลตัน) ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ตกลงให้ลูกจ้างทั้งสามมีวันหยุดงานทุกวันอาทิตย์และหยุดงานในวันเสาร์เว้นวันเสาร์ตลอดมา การที่โจทก์มีคำสั่งให้ลูกจ้างทั้งสามทำงานในวันเสาร์ทุกวันโดยคงมีวันหยุดงานเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ทำให้ลูกจ้างต้องรับภาระหนักขึ้น เมื่อลูกจ้างทั้งสามไม่ได้ตกลงยินยอม โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะทำได้ โจทก์จึงต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างทั้งสามพิเคราะห์แล้วศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ฉบับเดิมเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2533และฉบับใหม่ตามเอกสารหมาย จ.3 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2542 ได้กำหนดวันทำงานและเวลาทำงานปกติของโจทก์ไว้ในทำนองเดียวกันคือ ทำงานสัปดาห์ละ6 วัน เวลาทำงานปกติไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง มีวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 วัน คือวันอาทิตย์ ทางปฏิบัติโจทก์ให้ลูกจ้างแผนกการตลาดและขายต่างประเทศ แผนกการตลาดแผนกการตลาดและขายในประเทศ แผนกงบประมาณ แผนกบัญชี แผนกการเงิน แผนกจัดซื้อเม็ดพลาสติกแผนกสารสนเทศ และแผนกประสานการผลิต ทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ โดยให้ทำงานวันเสาร์เว้นวันเสาร์สลับกันไป ส่วนวันอาทิตย์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ นายจักรพงษ์ นางสาวศิริรัตน์ และนางอิงอรเป็นลูกจ้างโจทก์ ช่วงปี 2539 ถึง 2540 ในแผนกขายต่างประเทศ ทำงานกับโจทก์โดยมีวันหยุดดังกล่าว ต่อมาวันที่ 30ธันวาคม 2541 โจทก์ออกประกาศให้ลูกจ้างโจทก์แผนกต่าง ๆ ดังกล่าวมาทำงานทุกวันเสาร์ตามเอกสารหมาย จ.4 เห็นว่า การที่โจทก์มีคำสั่งให้ลูกจ้างของโจทก์บางแผนกไม่ต้องทำงานในวันเสาร์ในลักษณะวันเสาร์เว้นวันเสาร์สลับกันไปนั้นเป็นอำนาจบริหารจัดการของโจทก์ซึ่งโจทก์ย่อมมีอำนาจกระทำได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อผลประโยชน์ของโจทก์ และการอนุญาตให้ลูกจ้างไม่ต้องทำงานในลักษณะดังกล่าว โจทก์ก็อนุญาตแก่ลูกจ้างเป็นบางแผนกเท่านั้น มิใช่เป็นคำสั่งที่ให้ลูกจ้างของโจทก์ทั้งหมดถือปฏิบัติ อีกทั้งโจทก์ก็มิได้ประกาศให้วันเสาร์เว้นวันเสาร์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของโจทก์แต่อย่างใด การที่โจทก์อนุญาตให้ลูกจ้างไม่ต้องทำงานในวันเสาร์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นการชั่วคราวในช่วงระยะเวลาตามที่โจทก์เห็นสมควรเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์มีเจตนาเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยให้วันเสาร์เว้นวันเสาร์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ฉะนั้น การที่โจทก์ประกาศให้ลูกจ้างของโจทก์มาปฏิบัติงานในทุกวันเสาร์ตามเอกสารหมาย จ.4 จึงเป็นการออกคำสั่งให้ลูกจ้างปฏิบัติงานในวันทำงานตามปกติซึ่งลูกจ้างทุกคนของโจทก์จะต้องปฏิบัติตามอยู่แล้วตามที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ ไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างตามที่จำเลยอุทธรณ์แต่อย่างใด การที่ลูกจ้างทั้งสามของโจทก์ทำงานในวันเสาร์จึงเป็นการทำงานในวันทำงานตามปกติ ย่อมไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุดตามที่จำเลยวินิจฉัย ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share