แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองเดินเข้ามาหานายบุญช่วย (ผู้ตาย) ด้วยกันโดยจำเลยที่ 2 มีสาเหตุเป็นอริอยู่กับนายบุญช่วย และจำเลยที่ 1 ก็ถือมีดปลายแหลมมาด้วย เมื่อจำเลยที่ 2 เข้าเตะนายบุญช่วย ๆ กระโดดหนี จำเลยที่ 1 ถือมีดตามนายบุญช่วยติดไป จำเลยที่ 2ก็ตามไปด้วยจนจำเลยที่ 1 แทงนายบุญช่วยล้มลงขาดใจตายทันที แล้วจำเลยทั้งสองหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการสมคบกับจำเลยที่ 1 ฆ่านายบุญช่วยตาย.
ย่อยาว
เรื่อง ฆ่าคนตายโดยเจตนา
ได้ความว่าจำเลยทั้งสองเดินเข้ามาหานายบุญช่วย (ผู้ตาย) ด้วยกัน โดยจำเลยที่ ๒ มีสาเหตเป็นอริอยู่กับนายบุญช่วย และจำเลยที่ ๑ ก็ถือมีดปลายแหลมมาด้วย เมื่อจำเลยที่ ๒ เข้าเตะนายบุญช่วย ๆ กระโดดหนี จำเลยที่ ๑ ถือมีดตามนายบุญช่วยติดไป จำเลยที่ ๒ ก็ตามไปด้วยจนจำเลยที่ ๑ แทงนายบุญช่วยล้มลงขาดใจตายทันที แล้วจำเลยทั้งสองจึงหนีไปด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๒๔๙ จำคุกคนละ ๑๕ ปี
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นที่กล่าวข้างต้นนั้นเหมือนกัน แต่เห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งจำเลยยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ ๒ ได้สมคบกับจำเลยที่ ๑ ฆ่านายบุญช่วย พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๓๓๘(๓) จำคุก ๑ เดือน นอกจากนี้ที่แก้คงยืน
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพฤติการณ์แห่งจำเลยที่ ๒ ดังกล่าวข้างต้น เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยที่ ๒ ได้สมคบกับจำเลยที่ ๑ ฆ่านายบุญช่วยจริงดังข้อหา พิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามศาลชั้นต้น