คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 123 ก็ดีกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าก็ดีหาได้ให้อำนาจคณะกรรมการอำเภอหรือตัวนายอำเภอที่จะฟ้องร้องคดีเรื่องที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าไม่ฉะนั้นคณะกรรมการอำเภอหรือนายอำเภอจึงไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่บุคคลออกจากที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าแต่ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดให้เป็นผู้ปกครองศาลเจ้า ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ของศาลเจ้าส้ำเล่งเตี๋ยนซึ่งเป็นของรัฐบาล โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย

จำเลยต่อสู้ว่า เป็นที่ของบรรพบุรุษได้รับมรดกตกทอดกันมาถึงจำเลย

ศาลชั้นต้นเห็นว่า คณะกรมการอำเภอเมืองสงขลา ไม่มีอำนาจฟ้องคงมีอำนาจแต่นายบุญชัยโจทก์ แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 123 ก็ดี กฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าก็ดี หาได้ให้อำนาจคณะกรมการอำเภอหรือตัวนายอำเภอ ที่จะฟ้องร้องคดีเรื่องที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าไม่ยิ่งคณะกรมการอำเภอไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย นายอำเภอจึงไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ตามแบบอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 1893/2493 แต่นายบุญชัยได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดให้เป็นผู้ปกครองศาลเจ้านี้ จึงมีอำนาจหน้าที่ตามกฎข้อบังคับสำหรับการนี้ คือตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ และกฎเสนาบดีดังกล่าวแล้วมีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ได้

ส่วนข้อเท็จจริง คงฟังว่าจำเลยอาศัยจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น ฯลฯ

Share