คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2546

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สายไฟฟ้าที่ถูกลักเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ กรมทางหลวงหรือกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญของการสอบสวน แม้มิได้สอบสวนให้แจ้งชัดว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหายการสอบสวนก็ชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับนายคมกริช เสนาบูรณ์ จำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 402/2543 ของศาลชั้นต้น ได้ร่วมกันลักสายไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างโคมเสาไฟฟ้าส่องถนนแต่ละต้นยาวประมาณ 30 เมตร จำนวน 1 เส้น ราคา 6,000 บาท และสายไฟทองแดงที่ต่อระหว่างเสาไฟฟ้าไปพื้นดินเพื่อเป็นสายดินยาวเส้นละประมาณ 2เมตร จำนวน 15 เส้น รวมราคา 4,500 บาท รวมราคาทั้งสิ้น 10,500 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไฟฟ้าส่องถนนของกรมทางหลวงผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 และริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(7)(10) วรรคสอง, 83 จำคุกคนละ 6 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละหนึ่งในสามคงจำคุกคนละ 4 ปี ส่วนคำขอให้ริบคีมตัดลวด ประแจปากตายและกระเป๋าถือของกลางนั้นศาลได้สั่งให้ริบในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 402/2543 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2541/2543 ของศาลชั้นต้น แล้ว จึงให้ยกคำขอในส่วนนี้

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษจำคุกคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คนละหนึ่งในสามแล้วคงลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 2 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 2ได้ร่วมกับพวกกระทำความผิดตามฟ้องจริงส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกากล่าวอ้างว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนโดยแจ้งชัดว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหายและทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหายจริงหรือไม่ จึงเป็นการสอบสวนไม่ชอบนั้น เห็นว่า สายไฟฟ้าของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์กรมทางหลวงหรือกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชอบแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share