คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูปซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.เพื่อการค้าจำนวน ๒๙.๐๐ เมตรลูกบาศก์ ซึ่งเกินกว่า ๐.๒๐ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานตรวจพบและจับไม้นั้นได้จากจำเลย เหตุเกิดในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่ตำบลคลองมหานาค อ.ป้อมปราบ จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯลฯ และริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘,๗๓,๗๔ พ.ร.บ.ป่าไม้(ฉบับที่ ๓) ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ พิพากษาปรับ ๔๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวล ก.ม.อาญา มาตรา ๒๙,๓๐ ไม้ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ควรผิด เพราะได้รับใบอนุญาตให้ตั้งโรงค้าไม้สักแล้ว เพียงแต่ย้ายสถานที่มาอยู่คนละฟากถนน แม้จะผิดก็ไม่ควรริบไม้ของกลาง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ได้มีประกาศตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๕ จึงขาดองค์แห่งความผิด ฟ้องไม่สมบูรณ์ ถึงแม้จำเลยทำผิดก็ลงโทษไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา ว่าบรรยายฟ้องครบถ้วนตาม วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘ แล้ว ไม่จำเป็นต้องบรรยายเรื่องประกาศ พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยผิด จำเลยมิได้ต่อสู้ถึงฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์นี้เลย และมิได้หลงข้อต่อสู้
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ขาดข้อความสำคัญอันเป็นองค์แห่งการที่จะเป็นผิดตาม พ.ร.บ.นี้ คือไม่บรรยายว่าได้มีประกาศตามกฎหมายนั้น ฟ้องจึงไม่สมบูรณ์ศาลย่อมพิจารณาพิพากษายกฟ้องโจทก์ พิพากษายืน

Share