แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อขายและขาย เมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ.2518มาตรา13ทวิ,62,89,106ทวิซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาทเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา176วรรคหนึ่งแม้จำเลยมีอายุ16ปีเศษและถ้าศาลเห็นว่าสมควรพิพากษาลงโทษก็ให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดลงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา75ก็ตามก็ยังคงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม พระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อ จิต และ ประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 62, 89, 106 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 มาตรา 9,13, 15, 16 ริบ เงินสด จำนวน 680 บาท ของกลาง
จำเลย ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตามพระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 62วรรคแรก , 89, 106 วรรคแรก เป็น การกระทำ ความผิด หลายกรรมต่างกัน เรียง กระทง ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะ กระทำผิดจำเลย อายุ 16 ปี เศษ ลด มาตรา ส่วน โทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ลงโทษ ฐาน มี เมทแอมเฟตามีน ไว้ ใน ครอบครอง จำคุก 6 เดือน ฐาน ขาย เมทแอมเฟตามีน จำคุก 3 ปี รวม จำคุก 3 ปี 6 เดือน จำเลย ให้การรับสารภาพ เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก 1 ปี9 เดือน พิเคราะห์ พฤติการณ์ แห่ง คดี ประกอบ รายงาน ของ สถานพินิจและ คุ้มครอง เด็ก และ เยาวชน จังหวัด สมุทรปราการ แล้ว เพื่อ สวัสดิภาพและ อนาคต ของ จำเลย อาศัย อำนาจ ตาม พระราชบัญญัติ จัดตั้งศาล เยาวชน และ ครอบครัว และ วิธีพิจารณา คดี เยาวชน และ ครอบครัว พ.ศ. 2535มาตรา 104(2) ให้ เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น ส่งตัว จำเลย ไป รับ การฝึก และ อบรม ที่ สถานพินิจ และ คุ้มครอง เด็ก และ เยาวชน กลาง มี กำหนด6 เดือน ริบ เงิน 680 บาท ของกลาง
จำเลย อุทธรณ์ ขอให้ รอการกำหนดโทษ หรือ รอการลงโทษ หรือเปลี่ยน โทษ จำคุก จำเลย เป็น ใช้ วิธีการ เพื่อ ความปลอดภัย
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 แผนก คดี เยาวชน และ ครอบครัว พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ฐาน ขาย วัตถุ ออกฤทธิ์ ชนิด เมทแอมเฟตามีน ตาม พระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา13 วรรคหนึ่ง , 89 เพียง กระทง เดียว จำเลย อายุ 16 ปี ลด มาตรา ส่วน โทษให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 จำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม มาตรา 78 คง จำคุก 1 ปี 6 เดือนนอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา แผนก คดี เยาวชน และ ครอบครัว วินิจฉัย ว่า คดี นี้ โจทก์ฟ้อง ว่า จำเลย กระทำผิด ฐาน มีไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ ขาย และ ขาย เมทแอมเฟตามีน อันเป็น วัตถุ ออกฤทธิ์ ใน ประเภท 2 ขอให้ ลงโทษ ตาม พระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา13 ทวิ , 62, 89, 106 ทวิ ซึ่ง มี ระวางโทษ จำคุก ตั้งแต่ ห้า ปี ถึงยี่สิบ ปี และ ปรับ ตั้งแต่ หนึ่ง แสน บาท ถึง สี่ แสน บาท จึง เป็น กรณี ที่กฎหมาย กำหนด อัตราโทษ อย่าง ต่ำ ไว้ ให้ จำคุก ตั้งแต่ ห้า ปี ขึ้น ไป เมื่อจำเลย ให้การรับสารภาพ ศาล ต้อง ฟัง พยานโจทก์ จนกว่า จะ พอใจ ว่า จำเลยได้ กระทำผิด จริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176วรรคหนึ่ง แม้ จำเลย มี อายุ 16 ปี เศษ และ ถ้า ศาล เห็นว่า สมควร พิพากษาลงโทษ ก็ ให้ ลด มาตรา ส่วน โทษ ที่ กำหนด ไว้ สำหรับ ความผิด ลง กึ่งหนึ่งตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ก็ ตาม ก็ ยัง คง เป็น หน้าที่ ของ โจทก์ที่ จะ ต้อง สืบพยาน ให้ ได้ความ ถึง การกระทำ ผิด ของ จำเลย เมื่อ จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์ จำเลย แถลง ไม่สืบ พยาน ย่อม ลงโทษ จำเลย ไม่ได้ปัญหา นี้ แม้ จำเลย มิได้ ยกขึ้น ต่อสู้ ไว้ แต่ เป็น ปัญหาข้อกฎหมายที่ เกี่ยวกับ ความสงบ เรียบร้อย ศาลฎีกา มีอำนาจ ยกขึ้น วินิจฉัย ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ ด้วยมาตรา 225
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์