แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่า โจทก์ละทิ้งหน้าที่สามวันติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ เมื่อศาลสอบโจทก์ โจทก์เพียงแต่แถลงรับว่าโจทก์ขาดงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยมิได้แจ้งหรือยื่นใบลาต่อจำเลย ไม่ได้แถลงรับว่าการที่โจทก์ขาดงานนั้นเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร คดีจึงยังมีปัญหาต้องวินิจฉัยอีกว่า การที่โจทก์ขาดงานนั้นเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ คำแถลงรับของโจทก์ดังกล่าวยังไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัยคดีได้ ที่ศาลแรงงานกลางสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ละทิ้งหน้าที่สามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางปฏิบัติไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 ศาลฎีกาเห็นควรย้อนสำนวนให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาคดีใหม่ให้ถูกต้อง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิดแต่จำเลยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย ขดให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย
จำเลยให้การว่า โจทก์ละทิ้งหน้าที่ไม่มาทำงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เมื่อเลิกจ้าง
วันนัดพิจารณา ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์ละทิ้งหน้าที่ติดต่อกันเกินกว่าสามวันโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ โจทก์แถลงรับว่าโจทก์ได้ขาดงานตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2533ถึงวันที่ 16 มกราคม 2533 โดยมิได้แจ้งหรือยื่นใบลาต่อจำเลยศาลแรงงานกลางเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ให้งดสืบพยาน
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ขาดงานตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2533 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2533 โดยที่โจทก์มิได้แจ้งหรือยื่นใบลาต่อจำเลย ถือได้ว่าโจทก์ละทิ้งงานติดต่อกันเกินกว่าสามวันโดยไม่มีเหตุสมควรจำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้าง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีนี้มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ละทิ้งหน้าที่สามวันติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ เมื่อศาลสอบโจทก์โจทก์เพียงแต่แถลงรับว่าโจทก์ขาดงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยมิได้แจ้งหรือยื่นใบลาต่อจำเลยไม่ได้แถลงรับว่า การที่โจทก์ละทิ้งหน้าที่นั้นเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร คดีจึงยังมีปัญหาต้องวินิจฉัยอีกว่า การที่โจทก์ละทิ้งหน้าที่นั้นเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ การที่โจทก์แถลงรับว่าโจทก์ขาดงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยมิได้แจ้งหรือยื่นใบลาต่อจำเลยนั้น ข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัยคดีได้ ที่ศาลแรงงานกลางสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ละทิ้งหน้าที่สามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางปฏิบัติไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 243 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 ศาลฎีกาเห็นควรย้อนสำนวนให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาคดีใหม่ให้ถูกต้อง
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.