คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เอกสารเป็นจดหมายของจำเลยถึงโจทก์ และบันทึกของจำเลยว่าได้รับเงินกู้จากโจทก์ตามจำนวนที่ระบุไว้เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แต่มิใช่ตราสารการกู้ยืมเงินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 104 ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ก็ฟังเป็นพยานหลักฐานได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินกู้ 27,550 บาทกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาว่า เอกสารหมาย จ.3 ถึง จ.6เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยเฉพาะเอกสารหมาย จ.4 ถึง จ.6 เท่านั้นว่าเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินของจำเลยหรือไม่ ดังนั้นเอกสารหมาย จ.3 จึงไม่เป็นข้อโต้เถียงที่จะหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัย ส่วนเอกสารหมาย จ.4 – 6 นั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ความว่าจำเลยทั้งสองได้กู้เงินโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ได้มีจดหมายลงวันที่ 24 พฤศจิกายน2517 ถึงโจทก์ขอให้มอบเงินจำนวน 15,000 บาท ให้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้บันทึกต่อในจดหมายนี้ว่าได้รับเงิน 15,000 บาทไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว ตามเอกสารหมาย จ.4 และในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2517 นี้เองจำเลยที่ 1 ได้กู้เงินโจทก์เพิ่มอีก 5,000 บาท รวมกับเงินตามเอกสารหมาย จ.4 เป็นเงิน 20,000 บาท จำเลยที่ 1 ได้ทำบันทึกให้โจทก์ไว้ว่าได้เอาเงินไปจากโจทก์รวม 20,000 บาท และจำเลยที่ 2 ทำบันทึกต่อในบันทึกของจำเลยที่ 1นี้ รับทราบว่าจำเลยที่ 1 ได้รับเงินไปครบถ้วนแล้ว ดังเอกสารหมาย จ.5 ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้กู้เงินโจทก์อีก ตามเอกสารหมาย จ.6 ซึ่งเป็นบันทึกของจำเลยที่ 1ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2517 มอบให้โจทก์ไว้ว่า ได้เอาเงินของโจทก์ไป 5,000 บาทเอกสารหมาย จ.4 – 6 จึงเป็นเพียงหลักฐานการกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 หาใช่ตราสารการกู้ยืมเงินตามความหมายของประมวลรัษฎากร มาตรา 104 อันจะต้องปิดอากรแสตมป์ไม่ แม้เอกสารดังกล่าวจะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย”

พิพากษายืน

Share