คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งธนบัตรปลอมของรัฐบาลต่างประเทศนั้น แม้ภายหลังการกระทำผิด รัฐบาลเจ้าของธนบัตรจะได้ประกาศเลิกใช้ธนบัตรนั้นก็ตาม ถ้าไม่ใช่เป็นการยกเลิกบทกฎหมายที่บัญญัติถึงความผิดแล้ว ผู้กระทำผิดก็ยังคงต้องรับโทษอยู่
ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งธนบัตรปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา244 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดจึงนำเอากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 203 ที่แก้ไขแล้วมาลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

ฟ้องว่า ระหว่าง 1 ธ.ค. 97 ถึง 29 ธ.ค. 97 เวลากลางวันและกลางคืน จำเลยที่ 1, 5 สมคบกันมีบล๊อกพิมพ์ กระดาษพิมพ์และหมึกพิมพ์อันเป็นเครื่องมือและวัตถุสำหรับปลอมธนบัตรเงินเปี๊ยสอันเป็นเงินตราของประเทศลาว กัมพูชา และเวียตนาม ทำขึ้นเพื่อให้สาธารณชนใช้ และสมคบกันปลอมธนบัตรเงินเปี๊ยสอันเป็นเงินตราของรัฐบาลดังกล่าวขึ้นเพื่อให้สาธารณชนใช้ชนิดราคา 100 เปี๊ยส จำนวน 4,150 ฉบับ โดยมิได้มีอำนาจ และจำเลยที่ 2,3,4 สมคบกันมีธนบัตรเงินเปี๊ยสปลอมชนิดราคาฉบับละ 100 เปี๊ยสจำนวน 4,150 ฉบับ อันเป็นเงินตราของรัฐบาลดังกล่าวทำขึ้นเพื่อให้สาธารณชนใช้ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไปรับมาจากจำเลยที่ 1, 5 โดยจำเลยรู้แล้วว่าเป็นของปลอม

จำเลยที่ 1 ให้การภาคเสธ

จำเลยที่ 2 ถึง 5 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 202, 203, 205, 63 แก้ไขเพิ่มเติม 2475 มาตรา 6, 8 แต่ให้ลงโทษตาม มาตรา 203 ที่แก้ไขแล้ว จำคุกจำเลยที่ 1, 5 คนละ 12 ปี จำคุกจำเลยที่ 2, 3, 4 คนละ 10 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 4 หนึ่งในสาม จำคุก 13 ปี 4 เดือน ลดโทษจำเลยที่ 1 ลงหนึ่งในสาม จำคุก 6 ปี ของกลางริบ

จำเลยทุกคนอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ 1, 3 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 202, 203, 205, 63 แก้ไขเพิ่มเติม 2475 มาตรา 6, 8ให้ลงโทษตาม มาตรา 203 ที่แก้ไข ซึ่งเป็นบทหนัก จำเลยที่ 2, 4 ผิดตามมาตรา 203 แก้ไขแล้ว และมาตรา 63 เมื่อนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 และ 247 มาประกอบในการลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1, 5 คนละ6 ปี ลดจำเลยที่ 1 ลงกึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 สามปี จำคุกจำเลยที่ 2, 4 คนละ 5 ปี ไม่เพิ่มโทษจำเลยที่ 4 เพราะมีพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3

จำเลยที่ 2, 4, 5 ฎีกาขอให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ธนบัตรแบบของกลางที่หาว่าจำเลยทำปลอมและทำการจำหน่ายนี้ แม้ต่อมาภายหลังที่การกระทำผิดได้เกิดขึ้น รัฐบาลผู้เจ้าของธนบัตรประกาศเลิกใช้แล้วก็ดีแต่ขณะมีการกระทำผิด ธนบัตรของกลางยังเป็นเงินตราตามกฎหมายของประเทศที่ใช้ธนบัตรของกลางอยู่ และมีกฎหมายบัญญัติลงโทษไว้มิได้ยกเลิกไป คงเป็นความผิดตามกฎหมายอยู่เช่นเดิม ฉะนั้น จึงเป็นความผิดอยู่และฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2, 3, 4 มีความผิดฐานมีไว้และจำหน่ายธนบัตรเงินเปี๊ยสปลอม พิพากษาแก้จำคุกจำเลยที่ 2, 3, 4 คนละ 3 ปี ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244 ประกอบด้วยมาตรา 247, 3 และ 83 ยกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 5

Share