คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสียโดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาได้แต่ข้อกฎหมายพะยานศาลจะฟังคำให้การของจำเลยผู้หนึ่งมาใช้ยันจำเลยด้วยกันเองมิได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานยักยอกตามกฎหมายอาญา ม. ๑๓๑ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนแต่ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานปลอมหนังสืออีกะทงหนึ่ง
โจทก์ฏีกาขอให้ลงโทจำเลยที่ ๒ ด้วย จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าไม่ควรมีผิดฐานปลอมหนังสือ
ศาลฎีกาตัดสินว่าฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ส่วนฎีกาของจำเลยที่ ๑ นั้นข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ ๑ เป็นเสมียนอยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๑ บอกกับจำเลยที่ ๒ ว่า ห. ขอรับลอตเตอรรี่ไปจำหน่ายรวม ๒๕ เล่ม โดยจำเลยที่ ๑ เขียนชื่อ ห. ลงในช่องผู้รับลอตเตอรี่ไปจำหน่าย ได้ความเพียงเท่านี้โจทก์ไม่มีพะยานนำสืบว่าจำเลยที่ ๑ เซ็นชื่อ ห.ปลอม โจทก์มีแต่ ห.มาเบิกความเพียงว่าไม่ได้ลงชื่อไว้เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ยกเอาคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ ๒ มาใช้ยันจำเลยที่ ๑ นั้นไม่เห็นพ้องด้วย เมื่อไม่ฟังคำให้การของจำเลยที่ ๒ แล้ว พะยานหลักฐานของโจทก์ก็ไม่พอฟังว่าจำเลยที่ ๑ ปลอมชื่อ ห.ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นทุกประการ

Share