คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดในฐานะที่เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุ แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันเกิดเหตุในฐานะอะไร หรือมีนิติสัมพันธ์อย่างไรกับผู้เอาประกันภัยรถยนต์คันนั้นอันจะเป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดในการละเมิดของจำเลยที่ 1 ฟ้องของโจทก์จึงไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา เมื่อฟ้องโจทก์มิได้บรรยายถึงเหตุที่จะให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดแล้ว จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุน ซึ่งจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบ จึงไม่ต้องรับผิดด้วย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2571/2519)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน8 ม – 7716 จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน7 น – 2626 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2522 นายชาญขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 8 ม – 7716 ไปตามถนนสุขสวัสดิ์ ตามหลังรถยนต์หมายเลขทะเบียนน.บ.05110 ครั้นถึงหน้าตลาดสุขสวัสดิ์ จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 7 น – 2626 ด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น.บ.05110 นายชาญได้หักพวงมาลัยรถที่ตนขับไปทางซ้ายและชนกับรถที่จำเลยที่ 1 ขับ ทำให้รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 ม – 7716 เสียหายเป็นเงิน 14,307 บาท โจทก์จ่ายค่าซ่อมไปแล้วจึงรับช่วงสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยทั้งสอง ขอให้พิพากษาและบังคับ

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทของผู้ขับขี่รถหมายเลขทะเบียน 8 ม – 7716 แต่ฝ่ายเดียว ค่าเสียหายไม่เกิน 8,000 บาทและต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดในฐานะที่เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 7 น – 2626 คันเกิดเหตุ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันเกิดเหตุในฐานะอะไร หรือมีนิติสัมพันธ์อย่างไรกับผู้เอาประกันภัยรถยนต์คันนั้น อันจะเป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยต้องร่วมรับผิดในการละเมิดของจำเลยที่ 1 ฟ้องของโจทก์จึงไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา เมื่อฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายถึงเหตุที่จะให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดแล้ว จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนซึ่งจะต้องใช้ค่าสินไหมก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบจึงไม่ต้องรับผิดด้วย ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2571/2519

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share