คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3953/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รถยนต์ที่ผู้เสียหายเช่าซื้อจากบริษัท อ. นั้น จำเลยมีส่วนได้เสียอยู่ด้วย โดยเป็นผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อ และกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ การครอบครองรถยนต์ของจำเลยจึงเป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ใช่เป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหรือซึ่งผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย การที่จำเลยนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปมอบคืนให้แก่บริษัท อ. โดยผู้เสียหายมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไว้โดยทุจริต การกระทำผลจำเลยไม่เป็นความผิดฐานยักยอก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้าไปใต้ถุนบ้านของนางหนูช่วยผู้เสียหายแล้วลักเอารถยนต์ ๑ คันของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายผู้เช่าซื้อไป และจำเลยได้ปลอมใบมอบอำนาจอันเป็นเอกสารสิทธิให้ขายรถยนต์คืนแก่บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด แล้วจำเลยนำใบมอบอำนาจดังกล่าวไปแสดงต่อบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ว่าผู้เสียหายประสงค์จะขายรถคืนโดยมอบอำนาจให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการแทน บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด หลงเชื่อจึงยอมรับซื้อคืนและมอบเงินให้จำเลยไป ๒๐,๐๐๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑, ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๘, ๓๓๕ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ ริบเอกสารปลอมของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒ และมาตรา ๒๖๘ ลงโทษจำคุกทั้งสองกระทง ริบเอกสารสิทธิปลอม ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ลงโทษจำเลยฐานยักยอก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถยนต์ที่ผู้เสียหายเช่าซื้อจากบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด นั้น จำเลยมีส่วนได้เสียอยู่ด้วย โดยจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อ และกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อยังเป็นของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ผู้ให้เช่าซื้ออยู่การครอบครองรถยนต์ของจำเลยจึงเป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ใช่เป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหรือซึ่งผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปมอบคืนให้แก่บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ผู้เป็นเจ้าของ โดยผู้เสียหายมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไว้โดยทุจริต การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
พิพากษายืน

Share