คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลส่งประกาศขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองแก่ผู้จำนองไม่ได้เพราะบ้านจำเลยใส่กุญแจ จึงปิดประกาศไว้ที่บ้านเรือนอันเป็นภูมิลำเนาของผู้จำนอง เป็นการส่งประกาศถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จำเลยอ้างว่าไม่ทราบ เพราะไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่นไม่ได้

ย่อยาว

ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ 240,000 บาทกับดอกเบี้ย โจทก์ยึดที่ดินที่จำเลยจำนองบังคับคดี โจทก์ประมูลได้ จำเลยคัดค้านว่าไม่ทราบประกาศขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องคัดค้าน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เหตุที่จำเลยอ้างว่าการขายทรัพย์เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็คือจำเลยไม่เคยเห็นหรือทราบถึงประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ เพราะจำเลยไปประกอบอาชีพอยู่ที่กรุงเทพมหานครศาลฎีกาเห็นว่าก่อนขายทอดตลาด เจ้าพนักงานศาลได้ปิดประกาศแจ้งวันเวลาและสถานที่ ๆ จะขายไว้ในที่ชุมนุมชนที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ที่สำนักงานที่ดินที่บ้านกำนันและที่ว่าการอำเภอวิหารแดง สำหรับจำเลยเจ้าพนักงานศาลไม่สามารถส่งประกาศให้จำเลยรับได้เพราะบ้านเรือนใส่กุญแจ จึงได้ปิดประกาศไว้ที่บ้านเรือนอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 แล้ว จึงเป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าได้มีการส่งประกาศให้จำเลยทราบถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จำเลยจะมาอ้างว่าในระหว่างนั้น จำเลยไปประกอบอาชีพอยู่ที่กรุงเทพมหานครจึงไม่ทราบหาได้ไม่ ส่วนที่จำเลยอ้างอีกว่าที่ดินของจำเลยราคา 500,000 บาท การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายให้โจทก์เพียง 159,000 บาท จึงเป็นการขายโดยรวบรัดทำให้จำเลยเสียหายนั้น ปรากฏว่าเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินแปลงนี้มา ได้อธิบายถึงสภาพที่ดินว่าเป็นที่ดอนอยู่เชิงเขา เหมาะสำหรับทำไร่ และส่วนหนึ่งทางทิศใต้เป็นสุสาน (ฮวงซุ้ย) อยู่บ้างแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงตีราคา 150,000 บาทเท่าที่จำเลยจำนองประกันเงินกู้ไว้กับโจทก์ เมื่อเปิดประมูลขายทอดตลาด มีผู้เข้าประมูล 7 คนก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายให้โจทก์ผู้ให้ราคาสูงสุด 159,000บาท ได้รายงานขออนุญาตศาลและศาลสั่งให้ขายได้แล้ว ดังนี้ เห็นว่าเป็นการขายที่ได้ปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งราคาก็พอสมควรกับสภาพที่ดินแล้ว หาใช่ขายโดยรวบรัดดังคำร้องของจำเลยไม่”

พิพากษายืน

Share