คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำและประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดห้ามนายจ้างและลูกจ้างตกลงจ้างกันโดยคิดค่าจ้างและค่าล่วงเวลารวมกันไปในตัว นายจ้างและลูกจ้างจึงย่อมตกลงกันได้และมิใช่เป็นกรณีตกลงทำนองให้ลูกจ้างสละสิทธิในค่าล่วงเวลา จึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย เมื่อวันที่ 30 กันยายน2524 จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์อบรมและให้การศึกษาเกี่ยวกับความรู้ทางกฎหมายแรงงานแก่เพื่อนคนงานด้วยกัน เป็นเหตุให้จำเลยไม่พอใจไล่โจทก์ออกจากงานอันเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและจำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2523 ถึงวันที่ 30กันยายน 2524 ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาจำนวน 19,621 บาทให้แก่โจทก์ และให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งเดิมและอัตราเงินเดือนเท่าเดิมหากไม่สามารถรับโจทก์เข้าทำงานได้ให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายจำนวน20,000 บาทแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศปัจจุบันอยู่ในสภาพไม่ดี โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับผ้าและโรงงานของจำเลยเป็นโรงงานเล็กประสบกับปัญหาดังกล่าว เป็นเหตุให้ขาดทุนจำเป็นต้องลดคนงานจึงให้โจทก์ออกจากงานและจ่ายค่าชดเชยให้จำนวน 7,800 บาทแต่โจทก์ไม่ยอมรับและจำเลยไม่เคยค้างค่าล่วงเวลาของโจทก์ เพราะโจทก์ทำงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในค่าล่วงเวลา ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ขณะจำเลยรับโจทก์เข้าทำงาน ได้ตกลงกันว่าถ้าโจทก์ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง จำเลยให้ค่าจ้างเป็นการชดเชยไปในตัว เป็นค่าจ้างเดือนละ 2,300 บาท ถ้าโจทก์ทำงานเพียงวันละ 8 ชั่วโมงจะให้ค่าจ้างไม่เกินเดือนละ 1,500 บาท และโจทก์ตกลงรับค่าจ้างเดือนละ 2,300 บาท เชื่อว่าจำเลยมิได้ติดค้างค่าล่วงเวลาและการเลิกจ้างของจำเลยเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแต่โจทก์และจำเลยไม่อาจทำงานร่วมกันต่อไปได้ พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย7,800 บาทสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 2,600 บาท ค่าเสียหาย 7,800 บาทรวม 18,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตั้งแต่วันเลิกจ้างเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเรื่องการคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดห้ามไม่ให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงจ้างกันโดยคิดค่าจ้างและค่าล่วงเวลารวมกันไปในตัว นายจ้างและลูกจ้างจึงย่อมตกลงกันได้ และมิใช่เป็นกรณีตกลงทำนองที่ลูกจ้างสละสิทธิในค่าล่วงเวลา จึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และย่อมมีผลบังคับระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

พิพากษายืน

Share