คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กู้ยืมเงินกันตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไปแต่ไม่มีเอกสารต่อกันภายหลังผู้ยืมมีจดหมายรับรองหนี้นั้น ผู้ยืมต้องรับผิด

ย่อยาว

จำเลยยืมเงินโจทก์ไป ๒๐๐ บาท แต่ไม่มีสัญญาต่อกัน ต่อมาโจทก์มีจดหมายไปทวงเงินจำเลย ๆ ได้สลักหลังจดหมายตอบรับรองหนี้ ๒๐๐ บาทนั้นไปยังโจทก์ ซึ่งมีความว่า “เรื่องเงินที่ผมติดค้างท่านขุนอยู่ ๒๐๐ บาทนั้น ผมได้มอบให้ไปกับนายไว้หลายเวลาแล้ว” ดังนี้ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินนั้นจากจำเลย
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินให้จำเลยใช้เงิน ๒๐๐ บาทแก่โจทก์ กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี
จำเลยฎีกาเปนข้อกฎหมายว่า เอกสารที่จำเลยมีถึงโจทก์นั้น จะฟังเปนหลักฐานเอกสารแห่งการกู้ยืมเงินตามประมวลแพ่ง ม.๖๕๓ ไม่ได้เพราะไม่มีเอกสารกู้ยืม แม้จะกู้ยืมเงินกันจริงก็ฟ้องไม่ได้ ตามฎีกาที่ ๙๑๔/๒๔๖๗
ศาลฎีกาเห็นว่า จดหมายตอบรับที่จำเลยมีถึงโจทก์นั้น ฟังเปนเอกสารรับรองหนี้ได้ตามประมลแพ่ง ม.๖๕๓ ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างมานั้น จะนำมาใช้ในคดีนี้ไม่ได้ จึงตัดสินยื่นตามศาลล่าง

Share