คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นโดยยอมรับว่าตนเป็นหนี้เจ้าหนี้จริงเจ้าหนี้หาจำต้องมาเป็นคู่สัญญาหรือมอบอำนาจให้บุคคลใดมาเป็นคู่สัญญาแทนไม่ โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันและสัญญาจำนองเป็นประกันหนี้ของบริษัท ส. ที่ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์มิได้ฟ้องเรียกหนี้ตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิตและจำเลยมิได้ปฏิเสธว่าบริษัท ส. มิได้เปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงนั้นแล้วคดีไม่จำต้องอาศัยพยานหลักฐานอื่นอีกเล็ตเตอร์ออฟเครดิตจะปิดอากรแสตมป์หรือไม่ไม่ทำให้ผลการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงจึงไม่ต้องวินิจฉัยว่ารับฟังเล็ตเตอร์ออฟเครดิตเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่หนี้ตามสัญญาเล็ตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ10ปีตามมาตรา164เดิม

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ตกลง เปิด เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต ชนิด เพิกถอนไม่ได้ รวม 10 ฉบับ ให้ แก่ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด โดย จำเลย ที่ 1ใน ฐานะ ผู้จัดการ เพื่อ สั่ง ซื้อ สินค้า จาก ประเทศ ญี่ปุ่น จำเลย ที่ 1ยอม ผูกพัน ตน เข้า ค้ำประกัน และ โจทก์ ได้ ชำระ เงิน ไป แล้วแต่ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ไม่สามารถ ชำระ เงิน ค่าสินค้า ให้ โจทก์ ได้ จึง ทำ สัญญา ทรัสต์รีซีท รวม 11 ฉบับ และ ออก ตั๋วสัญญาใช้เงิน รวม 2 ฉบับให้ แก่ โจทก์ จำเลย ทั้ง สอง ได้ นำ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 10700, 41021ตำบล บางบอน อำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และ โฉนด เลขที่ 2893ตำบล หนองยาว อำเภอ เมือง สระบุรี จังหวัด สระบุรี พร้อม ด้วย สิ่งปลูกสร้าง มา จดทะเบียน จำนอง ไว้ เป็น ประกันหนี้ ของ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด แต่ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ผิดนัด ไม่ชำระ หนี้ ให้ โจทก์ ต่อมา เมื่อ วันที่ 6 กันยายน 2528 จำเลย ที่ 1ใน ฐานะ ผู้จัดการ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด และ ฐานะ ส่วนตัว ได้ ทำ หนังสือ รับสภาพหนี้ และ ร่วมรับผิด ชดใช้ หนี้สิน ให้ แก่ โจทก์โดย ยอมรับ ว่า จำเลย มี หนี้สิน ค้าง กับ โจทก์ ตาม สัญญา ทรัสต์รีซีท11 ฉบับ เป็น เงิน 6,628,794.73 บาท หนี้ ตาม ตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 ฉบับเป็น เงิน 2,243,954.15 บาท รวมเป็น เงิน ทั้งสิ้น 8,872,748.88 บาทและ ยอม เสีย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 19 ต่อ ปี นับแต่ วัน ทำหนังสือ รับสภาพหนี้ ไป จนกว่า จะ ชำระหนี้ เสร็จ ให้ โจทก์ โดย ตกลง จะผ่อนชำระ เงิน ให้ โจทก์ ใน ช่วง เดือน ธันวาคม ถึง เดือน กรกฎาคม ของ แต่ละ ปีไม่ ต่ำกว่า เดือน ละ 200,000 บาท และ ช่วง เดือน สิงหาคม ถึง เดือนพฤศจิกายน ของ แต่ละ ปี จะ ผ่อนชำระ ให้ ไม่ ต่ำกว่า เดือน ละ 50,000 บาทกับ ให้ นำ ทรัพย์สิน ที่ จดทะเบียน จำนอง ไว้ แก่ โจทก์ แต่ เดิม นั้น เป็นหลักประกัน ตาม สัญญา นี้ ด้วย จำเลย ที่ 1 ยัง ได้ ทำ สัญญาค้ำประกันการ ชำระหนี้ โดย ยอมรับ ผิด อย่าง เป็น ลูกหนี้ ร่วม อีก ด้วย หลังจาก ทำหนังสือ รับสภาพหนี้ แล้ว ไม่มี การ ชำระ เงิน ให้ โจทก์ เลย โจทก์ จึง มีหนังสือ ทวงถาม ให้ จำเลย ที่ 1 ใน ฐานะ ผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้ และ ได้บอกกล่าว บังคับจำนอง ให้ จำเลย ทั้ง สอง ทราบ โดยชอบ แล้ว แต่ จำเลย ทั้ง สองเพิกเฉย โจทก์ คิด ดอกเบี้ย จาก วัน ทำ หนังสือ รับสภาพหนี้ จน ถึง วันที่22 มกราคม 2531 จาก ต้นเงิน ตาม สัญญา ทรัสต์รีซีท 6,130,577.35 บาทเป็น ดอกเบี้ย 2,769,655.59 บาท จาก ต้นเงิน ตาม ตั๋วสัญญาใช้เงิน1,996,030 บาท เป็น ดอกเบี้ย 1,183,050.19 บาท รวม ต้นเงิน และ ดอกเบี้ยทั้งสิ้น 12,079,312.13 บาท ขอให้ บังคับ จำเลย ที่ 1 ชำระ เงิน12,079,312.13 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี จาก ต้นเงิน8,126,607.35 บาท นับ จาก วันฟ้อง ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ ให้ โจทก์ให้ จำเลย ที่ 2 ชำระ เงิน 1,188,646.58 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตราร้อยละ 15 ต่อ ปี จาก ต้นเงิน 640,000 บาท นับ จาก วันฟ้อง ไป จนกว่าจะ ชำระ เงิน เสร็จ ให้ โจทก์ ถ้า จำเลย ทั้ง สอง ไม่ชำระ หนี้ ให้ นำ ที่ดินโฉนด เลขที่ 10700, 41021 ตำบล บางบอน อำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2893 ตำบล หนองยาว อำเภอ เมือง สระบุรี จังหวัด สระบุรี ออก ขายทอดตลาด เพื่อ นำ เงินมา ชำระหนี้ ให้ โจทก์ ถ้า ได้ เงิน ไม่พอ ชำระหนี้ ให้ ยึดทรัพย์สิน อื่น ของจำเลย ทั้ง สอง มา ชำระหนี้ ให้ โจทก์ จน ครบ
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ว่า ฟ้องโจทก์ ตาม หนังสือ เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต10 ฉบับ ซึ่ง ระบุ ว่า ได้ จัดการ งาน แทน บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด โดย จำเลย ที่ 1 เป็น ผู้ค้ำประกัน นั้น โจทก์ มิได้ ฟ้อง เรียกร้องให้ ชำระหนี้ ภายใน กำหนด 2 ปี นับแต่ วันที่ โจทก์ ได้ ออก เงินทดรองไป ก่อน ฟ้องโจทก์ จึง ขาดอายุความ การ รับสภาพหนี้ มิได้ ทำให้ อายุความใน มูลหนี้ สะดุด หยุด ลง จำเลย ที่ 1 มิได้ ทำ หนังสือ สัญญา กับนาย เลอศักดิ์ จุลเทศ โจทก์ มิได้ มอบอำนาจ ให้ นาย เลอศักดิ์ จุลเทศ เป็น ผู้รับ สัญญา ตาม หนังสือ รับสภาพหนี้ นั้น กับ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด และ หรือ จำเลย ที่ 1 ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 1 ชำระ เงิน 12,079,312.13 บาทและ เสีย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี จาก ต้นเงิน 8,126,607.35 บาทนับแต่ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 ซึ่ง เป็น วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่าจำเลย ที่ 1 จะ ชำระ เงิน เสร็จ แก่ โจทก์ ให้ จำเลย ที่ 2 ชำระ เงิน640,000 บาท และ เสีย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 17.5 ต่อ ปี นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 ถึง วันฟ้อง และ ใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี นับแต่วัน ถัด จาก วันฟ้อง ไป จนกว่า จำเลย ที่ 2 จะ ชำระ เงิน เสร็จ แก่ โจทก์ถ้า จำเลย ทั้ง สอง ไม่ชำระ ให้ นำ ที่ดิน ที่ จำนอง ไว้ ออก ขายทอดตลาดเพื่อ นำ เงิน มา ชำระหนี้ ให้ โจทก์ หาก ได้ เงิน ไม่พอ ชำระหนี้ ให้ ยึดทรัพย์สิน อื่น ของ จำเลย ทั้ง สอง มา ขายทอดตลาด เพื่อ ชำระหนี้ ให้ โจทก์จน ครบ
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์ โดย ได้รับ อนุญาต ให้ อุทธรณ์ อย่าง คนอนาถา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา โดย ได้รับ อนุญาต ให้ ฎีกา อย่าง คนอนาถา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ประเด็น ข้อ สอง ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา ว่าหนังสือ รับสภาพหนี้ เอกสาร หมาย จ. 4 ใช้ บังคับ ไม่ได้ เพราะ โจทก์มิได้ มอบอำนาจ ให้ นาย เลอศักดิ์ จุลเทศ มา เป็น คู่สัญญา แทน โจทก์ นั้น เห็นว่า หนังสือ รับสภาพหนี้ เป็น หนังสือ ที่ ลูกหนี้ ทำ ขึ้น โดย ยอมรับ ว่าตน เป็น หนี้ เจ้าหนี้ จริง ส่วน เจ้าหนี้ หา จำเป็น ต้อง มา เป็น คู่สัญญาหรือ มอบอำนาจ ให้ บุคคล ใด มา เป็น คู่สัญญา แทน ไม่ เมื่อหนังสือ รับสภาพหนี้ เอกสาร หมาย จ. 4 เป็น หนังสือ ที่ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ทำ ขึ้น โดย ยอมรับ ว่า ตน เป็น หนี้ โจทก์ ตาม ฟ้อง จริง หนังสือ รับสภาพหนี้ ดังกล่าว จึง ใช้ บังคับ ได้ โดย โจทก์ไม่จำต้อง มอบอำนาจ ให้ นาย เลอศักดิ์ เป็น คู่สัญญา แทน ดัง ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา แต่อย่างใด ส่วน ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา ว่าเล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต ที่ โจทก์ ฟ้อง บาง ฉบับ ไม่ ติด อากรแสตมป์ บาง ฉบับติด ไม่ครบ จึง รับฟัง เป็น พยานหลักฐาน ไม่ได้ นั้น เห็นว่า โจทก์ ฟ้องจำเลย ทั้ง สอง ให้ รับผิด ตาม สัญญาค้ำประกัน และ สัญญาจำนอง เป็น ประกันหนี้ของ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด มิได้ ฟ้อง เรียก หนี้ ตาม เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต จำเลย ทั้ง สอง ก็ มิได้ ปฏิเสธ ว่า บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด มิได้ เปิด เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต กับ โจทก์ จึง ถือได้ว่า จำเลย ทั้ง สอง รับ ข้อเท็จจริง นั้น แล้ว คดี ไม่จำต้อง อาศัยพยานหลักฐาน อื่น อีก เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต จะ ปิดอากรแสตมป์ หรือไม่จึง ไม่ทำ ให้ ผล การ วินิจฉัย คดี เปลี่ยนแปลง เมื่อ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ได้ ทำ หนังสือ รับสภาพหนี้ ให้ ไว้ แก่ โจทก์ จำเลย ทั้ง สอง ซึ่ง เป็นผู้ค้ำประกัน และ จำนอง ค้ำประกัน หนี้ ดังกล่าว จึง ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์
ประเด็น ข้อ ที่ สาม มี ว่า คดี โจทก์ ขาดอายุความ หรือไม่ จำเลยทั้ง สอง ฎีกา ว่า การ ที่ โจทก์ ใช้ เงิน ตาม เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต แทนบริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด เป็น การ รับจ้าง ทำการ งาน และ ออก เงินทดรอง แทน บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด คดี จึง มี อายุความ 2 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8) เดิม (มาตรา 193/34(8)ที่ แก้ไข ใหม่ ) นั้น เห็นว่า โจทก์ มิได้ เป็น ลูกจ้าง ของ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ที่ โจทก์ ใช้ เงิน แทน บริษัท ดังกล่าว ไป ก็ เป็น การ ชำระ ตาม ข้อ ผูกพัน ใน สัญญา ที่ บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ขอให้ โจทก์ เปิด เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต เพื่อ สั่ง ซื้อ สินค้า จากประเทศ ญี่ปุ่น ให้ กรณี จึง มิใช่ เรื่อง ที่ ลูกจ้าง เรียก เอา เงิน ที่ ได้ ออก ทดรอง ไป ก่อน แทน ผู้ว่าจ้าง ดัง ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา จะ นำ อายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8) เดิม มา ใช้ บังคับ มิได้และ หนี้ ตาม สัญญา เล็ตเตอ ร์ออฟเครดิต ไม่มี กฎหมาย บัญญัติ อายุความ ไว้โดยเฉพาะ จึง มี อายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เดิม คดี นี้ ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า บริษัท สยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ทำ หนังสือ รับสภาพหนี้ ให้ แก่ โจทก์ เมื่อ วันที่ 6 กันยายน 2528ซึ่ง ทำให้ อายุความ สะดุด หยุด ลง และ เริ่ม นับ ใหม่ โจทก์ ฟ้องคดี นี้เมื่อ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 ยัง ไม่เกิน 10 ปี คดี โจทก์จึง ไม่ขาดอายุความ ”
พิพากษายืน

Share