คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ทำปลอมขึ้นซึ่งธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้กับธนบัตรซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริการออกใช้ เป็นการกระทำที่มีเจตนาให้เกิดผลแตกต่างกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๘๓ , ๙๑ , ๒๔๐ , ๒๔๔ , ๒๔๖ , ๒๔๗ ริบของกลาง ตามบัญชีของกลางคดีอาญาลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๒ ลำดับที่ ๑ ถึงที่ ๑๕ และที่ ๑๘ และตามบัญชีของกลางคดีอาญา ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๔๒ ลำดับที่ ๑ ถึงที่ ๕
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๐ , ๒๔๔ , ๒๔๖ , ๒๔๗ (ที่ถูกมาตรา ๒๔๗ ประกอบมาตรา ๒๔๐ , ๒๔๔ และ ๒๔๖) , ๓๒ , ๓๓ , ๘๓ (ที่ถูกไม่ต้องปรับบทตามมาตรา ๘๓)
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๒ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการตรวจค้นร้านติ๋มมอเตอร์ของนายดุสิต จันทนพ และร้านรุ่งจรัสการยางซึ่งอยู่ติดกับร้านติ๋มมอเตอร์ พบนายดุสิต จันทนพ และจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นภริยานายดุสิตเจ้าของร้านติ๋มมอเตอร์ค้นตัวนายดุสิตพบธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ปลอม ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๒๐ ฉบับ ในกระเป๋ากางเกงของนายดุสิต และพบจำเลยที่ ๑ กับที่ ๒ เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นร้านรุ่งจรัสการยางพบเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องมือและวัตถุสำหรับปลอมธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกใช้ในห้องนอนของบ้านหลังดังกล่าว พบธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ปลอม ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๑๗๒ ฉบับ ธนบัตรซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกใช้พิมพ์เฉพาะด้านหน้า ๘ แผ่น แผ่นละ ๓ ฉบับ ฝังดินอยู่หลังร้านรุ่งจรัสการยาง ธนบัตรดังกล่าวมีไว้เพื่อนำออกใช้ จึงจับกุมจำเลยทั้งสามกับพวกพร้อมของกลางดังกล่าวแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราปลอมอันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม ร่วมกันทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตรา จำเลยทั้งสามกับพวกให้การรับสารภาพ ต่อมาวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๔๒ ได้ทำการตรวจค้นร้านรุ่งจรัสการยางอีกครั้ง พบธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ปลอมและธนบัตรซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริการออกใช้ ธนบัตรปลอมดังกล่าวมีไว้เพื่อนำออกใช้ ทั้งหมดฝังดินอยู่หลังร้านรุ่งจรัสการยาง มีปัญหาว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่า จำเลยที่ ๑ ทำปลอมขึ้นซึ่งธนบัตรที่ซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้กับธนบัตรที่ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกใช้เป็นการกระทำที่มีเจตนาให้เกิดผลแตกต่างกันจึงเป็นความผิดหลายกรรม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน.

Share