แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ถือว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อผู้ตายแล้ว เพราะการที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายก็เป็นการกระทำโดยจงใจทำร้ายผู้ตายโดยผิดกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว แม้จะไม่มีเจตนาฆ่าก็ได้ชื่อว่ากระทำละเมิด แต่การละเมิดนั้นถึงกับมีเจตนาจะฆ่าหรือทำให้ตายโดยไม่มีเจตนานั้นเป็นเรื่องของเจตนาในการทำผิดทางอาญา เจตนากระทำกับจงใจกระทำจะตีความอนุโลมอย่างเดียวกันมิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นบุตรผู้เยาว์ อยู่ในความปกครองของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ได้ใช้มีดพับแทงนายสมรบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 ถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองปฏิเสธความรับผิด และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยที่ 1 มิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้ผู้ตาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย11,000 บาทแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 ผู้เดียวชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าตามคำพิพากษาในส่วนอาญาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย จึงไม่มีความจงใจทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 นั้น เป็นการเถียงที่เลี่ยงเจตนารมย์ของกฎหมาย เพราะการที่จำเลยที่ 1 ใช้มีดแทงผู้ตาย ก็เป็นการกระทำโดยจงใจทำร้ายผู้ตายโดยผิดกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว แม้จะไม่มีเจตนาฆ่าให้ถึงตาย ก็ได้ชื่อว่ากระทำละเมิด แต่การละเมิดนั้นถึงกับมีเจตนาจะฆ่าหรือทำให้ตายโดยไม่มีเจตนานั้นเป็นเรื่องของเจตนาในการทำผิดทางอาญา การเจตนากระทำกับการจงใจกระทำจะตีความอนุโลมอย่างเดียวกันหาได้ไม่
พิพากษายืน