คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1100/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือชื่อในช่องผู้กู้ในสัญญาว่าเป็นลายมือของจำเลยหรือไม่ ถ้าเป็นลายมือชื่อของจำเลย จำเลยยอมแพ้คดี ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อจำเลยและลายมือชื่อผู้กู้ในสัญญากู้แล้วมีความเห็นว่าน่าจะเป็นลายมือชื่อของบุคคลเดียวกัน ดังนี้ ถือได้ว่าผู้เชี่ยวชาญมี ความเห็นว่าลายมือชื่อในสัญญากู้เป็นลายมือชื่อของจำเลยตรงตาม คำท้าอันเป็นเหตุให้จำเลยแพ้คดีตามคำท้าแล้วหาจำต้องเอาข้อเท็จจริง อื่นมาฟังประกอบอีกไม่ ดังนั้น ปัญหาที่ว่าศาลอุทธรณ์นำคำรับ ในคำให้การของจำเลยมาวินิจฉัยร่วมกับผลการตรวจพิสูจน์ของ ผู้เชี่ยวชาญให้จำเลยแพ้คดีเป็นการชอบหรือไม่ จึงไม่จำเป็นต่อ รูปคดีที่ศาลฎีกาต้องวินิจฉัยอีกต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การว่าลงลายมือชื่อในสัญญากู้โดยมิได้กรอกข้อความ สัญญากู้เป็นโมฆะศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 40,230บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นโจทก์จำเลยตกลงท้ากันโดยให้กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจพิสูจน์ลายมือที่เขียนข้อความทั้งหมด และลายมือชื่อในช่องผู้กู้ในสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องว่าเป็นลายมือของจำเลยทั้งหมดหรือไม่ ถ้าเป็นลายมือของจำเลย จำเลยยอมแพ้คดีและยอมชดใช้เงินให้โจทก์ตามฟ้อง ถ้าไม่ใช่ลายมือของจำเลยทั้งหมดโจทก์ยอมแพ้ ทั้งนี้ยกเว้นลายมือในช่องผู้ให้กู้และในช่องพยาน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เป็นไปตามคำท้า ผลการตรวจพิสูจน์และความเห็นของผู้เชี่ยวชาญตามรายงานการตรวจพิสูจน์ได้ความว่าลายมือเขียนข้อความมีคุณสมบัติในการเขียนรูปร่างลักษณะตัวอักษรและตัวเลขอย่างเดียวกัน ในกรณีนี้จึงลงความเห็นว่า เป็นลายมือของบุคคลคนเดียวกัน ส่วนลายมือชื่อมีคุณสมบัติในการเขียน รูปร่างลักษณะ ตัวอักษรคล้ายคลึงกัน แต่เนื่องจากเป็นการตรวจลายมือชื่อที่มีรูปลักษณะเป็นตัวอักษรน้อยตัวในกรณีนี้จึงลงความเห็นว่าน่าจะเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน
พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับลายมือชื่อในช่องผู้กู้ในสัญญากู้เป็นลายมือของจำเลยหรือไม่ เห็นว่า ผลการตรวจพิสูจน์และความเห็นของผู้เชี่ยวชาญตามรายงานการตรวจพิสูจน์ว่า ลายมือชื่อผู้กู้เอกสารหมาย จ.3 เปรียบเทียบกับลายมือชื่อของนางประกอบ ศรีกุลตามเอกสารตัวอย่างปรากฏว่า ลายมือชื่อมีคุณสมบัติในการเขียนรูปร่างลักษณะของตัวอักษรคล้ายคลึงกัน แต่เนื่องจากเป็นการตรวจลายมือชื่อที่มีรูปลักษณะเป็นตัวอักษรน้อยตัว ในกรณีนี้จึงลงความเห็นว่าน่าจะเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน ตามปกติผลการตรวจพิสูจน์ และความเห็นของผู้เชี่ยวชาญนั้น ถ้าลายมือชื่อที่ต้องการพิสูจน์เมื่อเปรียบเทียบกับลายมือชื่อตัวอย่างแล้ว ถ้าเห็นว่าลักษณะตัวอักษรและลีลาในการเขียนแตกต่างกัน ผู้เชี่ยวชาญจะมีความเห็นในทางปฏิเสธว่ามิใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน แต่ในทางกลับกันเมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจเปรียบเทียบแล้ว เห็นว่า รูปร่างลักษณะตัวอักษรคล้ายคลึงกันและลงความเห็นว่า น่าจะเป็นลายมือของบุคคลเดียวกันเช่นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้ ก็ถือได้ว่าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าลายมือชื่อในสัญญากู้เงินตามฟ้องเป็นลายมือชื่อของจำเลยตรงตามคำท้าซึ่งเป็นคุณแก่ฝ่ายโจทก์ เป็นเหตุให้จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้าแล้ว หาจำต้องนำเอาข้อเท็จจริงอื่นมาฟังประกอบอีกด้วยไม่ ดังนั้นปัญหาที่ว่าการที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกเอาข้อเท็จจริงว่า จำเลยยอมรับว่าได้ลงลายมือชื่อในคำให้การมาวินิจฉัยร่วมกับผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญเป็นการชอบหรือไม่นั้น เห็นว่า ไม่จำเป็นต่อรูปคดี จึงไม่ต้องวินิจฉัยต่อไปที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share