แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และขอให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปด้วยนั้น แม้จะปรากฏว่าได้มีการฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไปนั้นจากผู้อื่น ซึ่งอาจต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตามเมื่อปรากฏว่าความจริงยังมิได้รับใช้เงินจำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของกองป่าไม้เขตจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยักยอกเงินราชการป่าไม้ ซึ่งจำเลยได้รับมาและรักษาไว้ตามหน้าที่ไป 30,813 บาท 20 สตางค์ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 319(3) กับขอให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่ยักยอก ฯลฯ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 319(3) ให้จำคุก 2 ปีตามที่จำเลยว่าไม่ต้องรับผิดใช้เงินเพราะกรมป่าไม้ ได้ฟ้องเรียกเงินจากพนักงานป่าไม้เขต และผู้ช่วยเป็นคดีแพ่งแล้วนั้น ยังไม่ปรากฏว่าได้ใช้เงินให้แก่กรมป่าไม้แล้วจึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินที่ยักยอก ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 319(3) ดังที่ศาลล่างวินิจฉัยเฉพาะเรื่องการใช้เงินศาลนี้เห็นด้วยคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยว่าแม้จะปรากฏว่าได้มีการฟ้องเรียกเงินรายที่จำเลยยักยอกนี้จากผู้อื่น ซึ่งอาจจะต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อปรากฏว่าความจริงยังมิรับใช้เงิน จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป จึงพิพากษายืน