แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ให้จำคุกจำเลยคนละ 3เดือน ศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้อัตราโทษเป็นให้ปรับไม่มีโทษจำคุกนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษและเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อย จึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเขตรั้วบ้านของนายแก้วปุกปัน และขึ้นไปบนเรือน ทำการตรวจค้นกระเทียมซึ่งมัดไว้เสียหายโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365, 358 ให้ลงโทษตามมาตรา 365 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษให้ลงโทษปรับจำเลยคนละ 30 บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ให้จำคุกไว้คนละ 3 เดือน ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 365 ดังศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษโดยไม่จำคุกจำเลย เพียงแต่ลงโทษปรับคนละ 30 บาท เห็นว่าเป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษ และเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หากจะถือว่าเป็นการแก้ไขมาก แต่คดีนี้ศาลเดิมพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และศาลอุทธรณ์เพียงแต่ลงโทษปรับ ไม่มีโทษจำคุก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์