คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ จำเลยต้องโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตแล้วนั้นเพิ่มโทษกักกันไม่ได้ จำเลยต้องคำ พิพากษาให้ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น ตามคำพิพากษาต้องแปลว่าจำเลยจะพ้นโทษออกมาไม่ได้ ที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกัดกกันจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อคำพิพากษา

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยใช้มีดดาบฟันนายแหนมเป็นบาดแผลสาหัส ๔ แผลโดยเจตนาจะฆ่าให้ตายเพื่อประโยชน์ในการชิงทรัพย์แล้ว จำเลยชองเอาสร้อยคอของนายแหยมไป นายแหยมได้ถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูก จำเลยกระทำร้ายนั้นเอง โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณอาญา มาตรา ๒๕๐ ๓๐๐ ๗๒ และขอให้ส่งตัวไปกักกันตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. ๒๔๗๙
ศาลชั้นต้น พิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๕๐(๕) ให้ประหารชีวิต ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษเป็นอันเพิ่มไม่ได้ ลดโทษให้จำเลยตามมาตรา ๕๙ เป็น จำคุกตลอดชีวิต ถ้าจำเลยมีทางพ้นโทษก็ให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด ๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โทษส่งตัวไปกักกันเป็นโทษเพิ่มอย่างหนึ่งตาม กฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๖ ห้ามมิให้เพิ่มกำหนดเวลาจำคุกร่วมกันเกินกว่า ๒๐ ปีโทษจำคุกที่จำเลยรับอยู่นี้มากกว่า ๒๐ ปี จึงไม่ควรเพิ่มโทษกักกันจำเลย จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้จำคุก จำเลยตลอดชีวิต โทษกักกันให้ยก
โจทก์จำเลย ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ตามลักษณะของโทษจำเลยที่ต้องจำคุกตลอดชีวิตนั้นต้องแปลว่าตามคำพิพากษาของศาลแล้วจำเลยจะพ้นโทษออกมาไม่ได้ ที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อคำบังคับตามคำพิพากษา ผิดกับการจำคุกที่มีกำหนดระยะเวลาซึ่งจำเลยมีโอกาศคำพิพากษาที่จะพ้นโทษไปได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share