แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนตัวของตนทั้งหมดให้แก่ผู้อื่นซึ่งรวมทั้งทรัพย์สินซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นสินสมรสรวมอยู่ด้วย ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก มีสิทธิในสินสมรสกึ่งหนึ่งซึ่งเจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้ใดไม่ได้ แม้คดีจะไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์สินตามพินัยกรรมจะมีสินสมรสเป็นส่วนของผู้ร้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ถือได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้ ดังนั้นผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้.
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกโดยอาศัยข้ออ้างว่ามีส่วนได้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก แต่เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมฉบับหลังเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรกทั้งฉบับทำให้ผู้คัดค้านไม่ได้รับทรัพย์มรดกเลย ทั้งภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีบุตรกับเจ้ามรดกก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้อยู่แล้ว กรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของร้อยตรีวิบูลย์ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๒๕ ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาและเป็นผู้จัดการมรดกของร้อยตรีวิบูลย์ตามคำสั่งของศาลแพ่งในคดีหมายเลขแดงที่ ๔๗๕๕/๒๕๒๒ ซึ่งสั่งเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๒ ผู้ร้องและเจ้ามรดกมีบุตรด้วยกัน ๔ คน มีสินสมรสคือที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๔๕๗ พร้อมตึกแถว ๒๕ คูหา และทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกโดยอ้างว่าเป็นพี่เจ้ามรดกและมีส่วนได้รับมรดกตามพินัยกรรมลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๑๙ หลังจากศาลตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้ร้องพบพินัยกรรมฉบับลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๒๐ ระบุให้เพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรก และถวายทรัพย์สินตามพินัยกรรมทั้งหมดแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพินัยกรรมฉบับหลังผู้คัดค้านไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกรายนี้ ขอให้สั่งถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลชั้นต้นในคดีนี้
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ตามพินัยกรรมฉบับหลัง เจ้ามรดกยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลอื่น ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในผลแห่งพินัยกรรม พินัยกรรมฉบับหลังจึงไม่ได้โต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๕ จึงไม่มีสิทธิขอให้ถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก พินัยกรรมฉบับหลังเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมถวายสินส่วนตัวของตนทั้งหมดซึ่งรวมถึงที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๔๕๗ กับตึกแถวและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและวินิจฉัยว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก แม้เจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดให้ผู้อื่น แต่ผู้ร้องมีสิทธิในสินสมรสกึ่งหนึ่งซึ่งเจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้ใดไม่ได้ แม้คดีจะไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์สินตามพินัยกรรมจะมีสินสมรสเป็นส่วนของผู้ร้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ถือได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้ ดังนั้นผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกของร้อยตรีวิบูลย์ได้ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกก็โดยอาศัยข้ออ้างว่ามีส่วนได้รับมรดกตามพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.ค.๓ เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.ค.๔ เพิกถอนพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.ค.๓ ทั้งฉบับ และตามพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.ค.๔ ผู้คัดค้านไม่ได้รับทรัพย์มรดกเลยทั้งภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีบุตรกับเจ้ามรดกก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้อยู่แล้วกรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๒๗
พิพากษายืน.