คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ซื้อเรือต่อระวางบรรทุก 6,67 ตันกรอสจากจำเลยที่ 1โดยทำหนังสือกันเอง และได้ชำระเงินค่าเรือแล้ว จำเลยที่ 1 ได้มอบใบทะเบียนเรือและตัวเรือให้แก่โจทก์ ยังเหลือแต่เพียงไปโอนชื่อแก้ทะเบียนที่กรมเจ้าท่าเท่านั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิในเรือลำนี้แล้วต่อมาโจทก์มอบเรือลำนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ไปใช้ โดยจำเลยที่ 2 รู้เป็นอย่างดีแล้วว่า เรือลำนี้โจทก์ขอซื้อจากจำเลยที่ 1 และได้ชำระราคากันเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 สมรู้กันไปโอนทะเบียนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของ ดังนี้โจทก์ย่อมฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายเรือระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เสียได้

ย่อยาว

ความว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือสัญญาขายเรือพิพาทระวางบันทุก 6.67 ตันกรอสให้โจทก์ จำเลยที่ 2 อยู่ในที่นั้นลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือสัญญานั้นด้วย จำเลยที่ 2 ได้ขอเรือพิพาทมาใช้แทนลำที่โจทก์เช่าจากนายแผนให้จำเลยที่ 2 ใช้โจทก์อนุญาตพร้อมทั้งมอบทะเบียนเรือและหนังสือสัญญาซื้อขายให้แก่จำเลยที่ 2 เพราะเกรงว่าอาจถูกจับกลางทาง จำเลยที่ 2 ได้ครอบครองเรือพิพาทตลอดมาต่อมาโจทก์ไปหาจำเลยที่ 2 จะเอาเรือพร้อมด้วยใบทะเบียนและสัญญาซื้อขายไปโอนทะเบียนจำเลยที่ 2 อ้างว่าได้ซื้อเรือไว้จากจำเลยที่ 1 และได้โอนทะเบียนเสร็จแล้ว โจทก์จึงไปหาจำเลยที่ 1 ๆ รับว่าได้โอนทะเบียนขายให้จำเลยที่ 2 จริง โดยจำเลยที่ 2 บอกว่าโจทก์ได้ขายเรือลำนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 แล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 2 เป็นคดีอาญาฐานยักยอก จำเลยที่ 1 ไม่ยอมเป็นพยานโจทก์จึงถอนฟ้องคดีอาญามาฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายและเพิกถอนการแก้ทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ถ้าจำเลยไม่สามารถทำได้ให้จำเลยร่วมกันใช้เงิน 2,000 บาทแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ซื้อเรือรายพิพาทโดยทำหนังสือกันเองแต่ได้ชำระเงินค่าเรือแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ได้มอบใบทะเบียนเรือและตัวเรือให้แล้ว ยังเหลือแต่เพียงจะไปโอนชื่อแก้ทะเบียนที่กรมเจ้าท่าเท่านั้น โจทก์มีสิทธิในเรือรายนี้ และมีอำนาจฟ้องร้องให้จำเลยที่ 1 โอนทะเบียนให้ได้ ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 โอนทะเบียนให้จำเลยที่ 2 แล้ว แต่จำเลยที่ 2 รู้ดีแล้วว่า เรือลำนี้โจทก์ซื้อจากจำเลยที่ 1 ชำระค่าเรือเสร็จสิ้นไปแล้ว และมอบให้จำเลยที่ 2 มาใช้ จำเลยที่ 1 ที่ 2 สมรู้กันไปโอนทะเบียนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของเป็นการทุจริตผิดต่อหน้าที่ที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้ไว้จากโจทก์ชอบที่จะเพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้

พิพากษายืน

Share