แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายกับจำเลยสมัครใจชกมวย พนันเอาเงินกันโดยไม่ได้รัยอนุญาต จะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายไม่ได้ เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะการชกมวยนั้น ผู้ตายก็ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย บิดาของผู้ตายย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้ตายได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ชกมวยกับผู้ตายซึ่งเป็นบุตรโจทก์ โดยการสนับสนุนร่วมมือของจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๗ เพื่อพนันเอาเงินและมิได้รับอนุญาตจากทางราชการเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐, ๘๓, ๘๖
จำเลยทั้งหมดให้การว่า ผู้ตายกับจำเลยที่ ๑ ชกมวยโดยมีการพนันกันจำเลยที่ ๒ ไม่ได้สนับสนุนให้มีการกระทำผิด จำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๗ เป็นกรรมการพี่เลี้ยงการชกเสมอกัน ผู้ตายเป็นลม ระหว่างไปโรงพยาบาลผู้ตายตกจากเปลศีรษะกระแทกพื้นรถยนต์เป็นเหตุให้ตาย โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๑ กับผู้ตายเจตนาแข่งขันชกมวย จำเลยที่ ๑ ไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๗ ไม่ใช่ตัวการหรือผู้สนับสนุนผู้ตายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องแทนผู้ตาย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เหตุที่ผู้ตายตายเกิดจากสมัครใจเข้าชกมวยกันเป็นกีฬาต่างฝ่ายไม่มีเจตนาละเมิดกฎหมาย ไม่มีความผิด พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยกับผู้ตายชกมวยกัน จะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องสมัครใจเข้าชกมวยซึ่งกันและกัน เมื่อผู้ตายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย บิดาของผู้ตายก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดี
พิพากษายืน