แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือเกิดเหตุวันใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะต้องพิจารณา จากคำพยานหลักฐาน ทั้งหมดรวมกันแล้ว จึงจะชี้ขาดฟังเป็นข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดหรือจำเลยกระทำผิดวันใดแน่ หาใช่ว่าถ้าพยานโจทก์ คนหนึ่งหรือสองคนเบิกความถึงวันเกิดเหตุแตกต่างไปจากวันที่กล่าวในฟ้องแล้ว จะปรับเอาว่าข้อเท็จจริงตามทาง พิจารณาต่างกับฟ้องหรือว่าฟ้องผิดวันหาได้ไม่.
แม้พยานบุคคลถึง 2 คนเบิกความถึงวันเกิดเหตุผิดจากวันที่กล่าวในฟ้อง แต่ก็เป็นข้อถ้อยคำที่เลื่อนลอยไม่มีหลัก ฐานประกอบ และเบิกหลังจากวันเกิดเหตุนานซึ่งย่อมพลั้งเผลอผิดพลาด แต่โจทก์มีพยานหลักฐานอีกมากที่จะ
พิศูจน์ให้เป็นยุติได้ว่าวันเกิดเหตุตรงตามที่กล่าวในฟ้อง เช่นนี้ศาลก็ย่อมฟังว่าวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง./
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำเลยให้การรับ แต่ อ้างว่าได้กระทำผิดลงในเวลาที่จำเลยวิกลจริต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า นางฟองเบิกความว่าเกิดเหตุ วันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ แต่ในฟ้องว่าเกิดเหตุวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ จึงถือว่าต่างกับฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ปัญหาที่ว่าจำเลยกระทำผิดหรือเกิดเหตุวันใด เป็นเรื่องปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลจะต้องพิจารณาจากคำ พยานหลักฐานทั้งหมดรวมกัน แล้วจึงจะชี้ขาดฟังเป็นข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดหรือจำเลยกระทำผิดวันใดแน่ หาใช่ว่าถ้า พยานโจทก์คนหนึ่งหรือสองคนเบิกความถึงวันเกิดเหตุแตกต่างไปจากวันที่กล่าวในฟ้องแล้ว จะปรับเอาว่า ข้อเท็จจริงทางพิจารณาต่างกับฟ้องหรือฟ้องผิดวันหาได้ไม่ นางฟอง นางสาวศรีนวลเบิกถึงวันเกิดเหตุผิดจากวันที่กล่าว ในฟ้อง เป็นถ้อยคำที่เลื่อนลอยไม่มีหลักฐานประกอบ และเบิกหลังจากวันเกิดเหตุนาน ย่อมพลั้งเผลอผิดพลาดได้แต่ก็ ยังมีพยานหลักฐานอีกมากที่จะพิศูจน์ให้ฟังเป็นยุติได้ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ตรงตามที่โจทก์ฟ้อง จึงพิ พากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้พิพากษาใหม่ตามกระบวนความ
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกา พิจารณาแล้ว เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า วันเกิดเหตุในคดีนี้ตรงตามที่โจทก์ฟ้องพยาน ๒ คนเบิกความผิดำป เองต่างหาก ฯลฯ
จึงพิพากษายืน.