คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานเสพรับเข้าร่างกายหรือใช้ด้วยวิธีอื่นใดซึ่งยาเสพติดให้โทษนั้น กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้เสพรับเข้าร่างกายหรือใช้ด้วยวิธีอื่นใดซึ่งยาเสพติดให้โทษแก่ตนเองเท่านั้น ลักษณะแห่งความผิดไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นร่วมกระทำความผิดด้วยกันได้ ดังนั้น แม้จำเลยจะฉีดเฮโรอีนเข้าร่างกายให้ ร. ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมเสพรับเข้าร่างกายซึ่งเฮโรอีนที่ฉีดให้ ร. นั้นด้วย จำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันมีและเสพเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษด้วยการฉีดเข้าร่างกาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 3, 20 ตรี, 22, 23, 29 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2479 มาตรา 10 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 4, 7, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานร่วมเป็นตัวการมีและเสพเฮโรอีนลงโทษฐานร่วมมีเฮโรอีนจำคุก 2 ปี ฐานร่วมเสพเฮโรอีนจำคุก 3 ปี รวมจำคุก 5 ปี

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องสำหรับข้อหาเสพเฮโรอีน หากศาลฟังว่าจำเลยฉีดเฮโรอีนให้นางแรมจริง จำเลยก็เป็นเพียงผู้สนับสนุน

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะความผิดข้อหาเสพเฮโรอีนจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 22 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 8 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงจำคุกจำเลย 4 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานเสพรับเข้าร่างกายหรือใช้ด้วยวิธีอื่นใดซึ่งยาเสพติดให้โทษนั้น กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้เสพรับเข้าร่างกายหรือใช้ด้วยวิธีอื่นใดซึ่งยาเสพติดให้โทษแก่ตนเองเท่านั้น ลักษณะแห่งความผิดไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นมาร่วมกระทำผิดด้วยกันได้ แม้จำเลยจะฉีดเฮโรอีนเข้าร่างกายให้นางแรม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมเสพรับเข้าร่างกายซึ่งเฮโรอีนที่ฉีดให้นางแรมนั้นด้วย เพราะเฮโรอีนที่จำเลยฉีดเข้าร่างกายนางแรมนั้นจำเลยไม่ได้เสพหรือรับเข้าร่างกายของจำเลยเลย จึงไม่อาจเป็นการกระทำโดยมีเจตนาร่วมกันเพื่อประสงค์ต่อผลที่เกิดขึ้นอันกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดได้

พิพากษายืน

Share