คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์อุทธรณ์โดยมีพนักงานอัยการผู้รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง โดยมีสำเนาคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 235/2546 ที่มอบหมายให้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต หรือพนักงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขตมีอำนาจรับรองอุทธรณ์แทนอัยการสูงสุด เมื่อพิจารณาเห็นว่า มีเหตุอันควรที่ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยสำหรับคดีอาญาซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขตนั้น ๆ ได้ โดยเป็นคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน ป.วิ.อ. มาตรา 193 ตรี และ พ.ร.บ.พนักงานอัยการฯ มาตรา 15 พนักงานอัยการผู้รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 ตามมาตรา 18 จึงเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาจึงเป็นไปโดยชอบ
การกระทำความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ เป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุขของครอบครัว สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคม พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย แต่จำเลยมีอายุถึง 58 ปี และโทษจำคุกที่จะต้องรับแต่ละกระทงมีกำหนดเวลาน้อยกว่าสามเดือน เห็นสมควรใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำคุกให้น้อยลงอีกเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 ขอให้ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12 (ที่ถูก 12 (1) และ (2)), 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำเลยให้การรับสารภาพหลังจากมีการสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้ว จึงเห็นควรลดโทษให้เพียงหนึ่งในสาม ฐานร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้รวม 196 กระทง จำคุกกระทงละ 4 เดือน ปรับกระทงละ 3,333 บาท ฐานเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้รวม 7 กระทง จำคุกกระทงละ 1 เดือน ปรับกระทงละ 1,000 บาท รวมจำคุก 791 เดือน ปรับ 660,268 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ภายในกำหนด 1 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 4 ครั้งและให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมเป็นเวลา 30 ชั่วโมง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง และให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์ โดยพนักงานอัยการ รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ 196 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 4 เดือน ความผิดฐานเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ 7 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 798 เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 532 เดือน แต่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (1) ให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงให้ลงโทษจำคุก 10 ปี โดยไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษและไม่คุมความประพฤติจำเลย ยกคำขอให้จ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าพนักงานอัยการผู้รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 ไม่มีอำนาจรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงไม่มีอำนาจรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณานั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ตรี อธิบดีกรมอัยการหรือพนักงานอัยการซึ่งอธิบดีกรมอัยการได้มอบหมายมีอำนาจลงลายมือชื่อรับรองในคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อโจทก์อุทธรณ์ โดยมีพนักงานอัยการผู้รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง โดยมีสำเนาคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 235/2546 ที่มอบหมายให้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต หรือพนักงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต มีอำนาจรับรองอุทธรณ์แทนอัยการสูงสุด เมื่อพิจารณาเห็นว่ามีเหตุอันควรที่ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยสำหรับคดีอาญาซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขตนั้นๆ ได้ โดยเป็นคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ตรี และพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2498 มาตรา 15 พนักงานอัยการผู้รักษาการแทนอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 ตามมาตรา 18 จึงเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาจึงเป็นไปโดยชอบ ฎีกาในข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษในสถานเบาโดยรอการลงโทษนั้น เห็นว่า จำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ในการเล่นการพนันสลากกินรวบและทายผลการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศ ลักษณะของการกระทำความผิดเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนโดยมิได้คำนึงว่าจะเป็นเหตุให้ประชาชนลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุขอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันการพนันทายผลฟุตบอลแพร่ระบาดทั่วไปในหมู่นักเรียน นักศึกษา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุขของครอบครัว สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจและสังคม พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และมีภาระต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นประการอื่น ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย อย่างไรก็ตาม ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุถึง 58 ปี และโทษจำคุกซึ่งจำเลยจะต้องรับตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ในแต่ละกระทงมีกำหนดเวลาน้อยกว่าสามเดือนเห็นสมควรใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำคุกระยะสั้นของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้น้อยลงอีกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 55 ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดี ฎีกาในข้อนี้ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 3 วัน ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกระทงละ 2 วัน เรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 203 กระทง คงจำคุกจำเลย 406 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

Share