คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สัญญาจะซื้อจะขายมีข้อความว่า “ผู้จะซื้อยินดีจะจ่ายส่วนหนึ่งของค่าที่ดินให้แก่ผู้จะขายเป็นค่าปรับปรุงที่” ซึ่งเป็นข้อความที่กล่าวบ่งถึงข้อตกลงระหว่างโจทก์ผู้จะซื้อกับจำเลยผู้จะขายเกี่ยวกับการปรับปรุงที่ดินที่จะซื้อขายกัน แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะมีอยู่จริงหรือไม่ หรือมีสาระสำคัญอย่างไร ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบซึ่งในการนำสืบเช่นนี้ไม่มีกฎหมายบังคับให้มีพยานเอกสารมาแสดง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบพยานบุคคลในข้อนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงขายที่ดินให้โจทก์โดยคิดแยกเป็นราคาค่าที่ดินส่วนหนึ่งกับค่าปรับปรุงที่ดินอีกส่วนหนึ่ง โจทก์วางมัดจำและชำระราคาส่วนหนึ่งไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะชำระเมื่อจำเลยแจ้งว่าโฉนดเรียบร้อย จำเลยรับปรับปรุงที่ดินให้โดยการถมดินให้มีระดับสูงเสมอคันนาก่อนวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ แต่จำเลยไม่ทำ ขอให้บังคับจำเลยปรับปรุงที่ดินแล้วจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ จำเลยให้การว่า จำเลยได้มอบให้ตัวแทนแจ้งไปขอให้โจทก์ชำระราคาที่เหลือแต่โจทก์ไม่ชำระ จำเลยจึงบอกเลิกสัญญา จำเลยมิได้ตกลงปรับปรุงถมที่ดินพิพาทดังที่โจทก์อ้าง แต่ที่แบ่งราคาออกเป็นค่าปรับปรุงที่ดินก็เพื่อให้เสียค่าธรรมเนียมโอนและค่าภาษีอากรน้อยลงเท่านั้นศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย ล.3, ล.4ข้อ 2.1 ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงที่ดิน เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 นั้น เห็นว่าสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย ล.3, ล.4 ข้อ 2.1 ระบุถึงเรื่องการปรับปรุงที่ดินเพียงว่า “ผู้จะซื้อยินดีจะจ่ายส่วนหนึ่งของค่าที่ดินให้แก่ผู้จะขายเป็นค่าปรับปรุงที่” ข้อความดังกล่าวบ่งถึงข้อตกลงระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นผู้จะซื้อกับจำเลยซึ่งเป็นผู้จะขายเกี่ยวกับการปรับปรุงที่ดินที่จะซื้อขายกัน แต่ข้อตกลงนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ หรือมีสาระสำคัญอย่างไรนั้น จำต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบมา ซึ่งในการนำสืบถึงข้อตกลงในลักษณะเช่นนี้ หามีกฎหมายบังคับให้มีพยานเอกสารมาแสดงไม่ จำเลยจึงมีสิทธินำสืบพยานบุคคลในข้อนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 และข้อเท็จจริงคดีนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้ตกลงปรับปรุงที่ดินที่จะขายให้แก่โจทก์ จำเลยจึงมิใช่เป็นฝ่ายผิดสัญญา”
พิพากษายืน

Share