คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พะยาน คำซัดชั้นไต่สวน
คำของจำเลยที่ให้การในชั้นไต่สวนซัดทอดถึงจำเลยอื่น ๆ ด้วยกันนั้น ใช้ฟังเป็นพะยานหลักฐานยันแก่จำเลยเหล่านั้นไม่ได้
คำของผู้ไปกระทำผิดคำของผู้ไปกระทำผิดด้วยกันแต่ไม่ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยชั้นศาลนั้น ฟังประกอบลงโทษจำเลยได้แต่ต้องฟังโดยระมัดระวัง
ไม่เสนอ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันกระทำการปล้นทรัพย์ของ จ. ไป
ทางพิจารณาโจทก์สืบ จ.เจ้าทรัพย์ ซึ่งให้การยืนยันว่า จำเลย ๓ คนนี้เป็นคนร้านปล้นทรัพย์แลโจทก์มีคำของ ล.เบิกความว่า จำเลยเป็นผู้ร้ายรายนี้ซึ่งพะยานยังไม่ได้ไปกับจำเลยด้วยเหมือนกัน ยังได้ไปหยุดยืนอยู่ห่าง ๆ แลยังมีคำของผู้ใหญ่บ้านเบิกความว่าก่อนจำเลยถูกจับ ย.และบ.จำเลยได้บอกแก่พะยานว่าจำเลยทั้ง ๓ คน เป็นผู้ไปทำการปล้น และเมื่อ ย. จำเลยถูกจับมาสอบสวนก็ให้การรับสารภาพว่า จำเลยได้ไปกระทำการปล้นรายนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ ย. รับสารภาพให้การซัดทอดถึงจำเลยอื่น ๆ นั้น ไม่เป็นหลักฐานใช้ยัน บ.แล ว.จำเลยได้ตามกฎหมายทั้ง ล.พะยานโจทก์เป็นผู้สมรู้กับจำเลยในการปล้นรายนี้ จึงต้องระวังคำของ ล. เว้นไว้แต่จะมีพะยานประกอบแต่โจทก์มีพะยานหลักฐานอื่นมั่นคง ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ที่ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๑

Share