แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเป็นคนหนุ่มอันธพาล มารุกรานฉุดคร่าบุตรสาว จำเลยถึงในบ้าน และยังจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงยิงเอา เพราะ ถ้าจะรอให้ผู้ตายเข้าทำร้ายถึงตัวเสียก่อนจำเลยก็คงไม่มีทางสู้ นั้น เป็นการป้องกัน โดยชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยังอาจใช้ปืนยิงนายแดง พลอินทร์ ตาย โดยเจตนา ขอให้ลงโทษประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบปืนกับปลอกกระสุนปืน ของกลาง
จำเลยให้การว่า ได้ยิงนายแดงตายจริง เพราะนายแดงเข้าไปฉุดลากบุตรสาวถึงในเรือน จำเลยเหลือที่จะอดกลั้นได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๖ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๔ ตาม มาตรา ๗๘ เหลือโทษจำคุก ๑๒ ปีริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การที่จำเลยยิงผู้ตายก็โดยผู้ตายจะทำร้ายจำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ให้ยกฟ้อง
อัยการโจทก์นางดวนโจทก์ร่วม ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำพยานโจทก์ ก็ได้ความว่าวันเกิดเหตุ ผู้ตายตั้งใจจะไปฉุดบุตรสาวจำเลยไปให้นายเปรื่องน้องชายผู้ตาย เมื่อไปถึงบ้านจำเลยก็ยังได้พูดกับบุตรชายจำเลย ว่า จะมาฉุดบุตรสาวจำเลย จึงเป็นอันพังได้ว่า ผู้ตายไปบ้านจำเลยตั้งใจจะไปฉุดคร่าลูกชายจำเลย
ข้อที่ว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย เพราะผู้ตายฉุดคร่าบุตรสาวและบุตรสาวของจำเลยร้องให้ช่วย จำเลยถือปืนไปพบผู้ตายกำลัง ฉุดข้อมือบุตรสาวและผู้ตายตรงเข้ามาจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงยิงเอานั้น น่าเชื่อวันเป็นจริง
จำเลยเป็นคนชราอายุมาก ส่วนผู้ตายเป็นคนหนุ่มอันธพาล มารุกรานฉุดคร่าบุตรสาวจำเลยถึงบ้านเรือน และยังทำท่าจะต่อสู้ทำร้าจำเลยอีก ผู้ตายมีมีดอยู่ในมือถ้าจะรอให้ผู้ตายเข้าทำร้ายถึงตัวเสียก่อน จำเลยก็คงไม่มีทางสู้ เพราะผู้ตายหนุ่มแน่นแข็งแรงกว่า เมื่อตกอยู่ในฐานะเช่นนี้ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จำเลยจะต้องใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวไว้ก่อน เป็นเรื่องน่าเห็นใจจำเลย เพราะไม่มีทางที่จะหลีกเหลี่ยงได้
ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ บัญญัติว่า ไม่มีความผิด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน