คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้นำเครื่องขยายเสียและสิ่งอุปกรณ์ซึ่งเป็นของจำเลยมีไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2496 สำหรับรับจ้างโฆษณาในงานต่าง ๆ ออกไปนอกราชอาณาจักร สู่ประเทศลาว เพื่อให้วาดผาทดซึ่งอยู่ในประเทศ ลาวคนฝั่งแม่น้ำโขงกับจังหวัดเลยเช่าเมื่อเดือน มิถุนายน 2500 ต่อมาเครื่องชำรุดระหว่างงานจำเลยจังได้ขายเครื่องนี้ให้แก่วัดผาหดไปในราคา 6,200 บาท โดยมิได้รับอนุญาตพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบ เพื่อการนำออกนอกราชอาณาจักร ดังนี้ มิใช่เป็นเรื่องจำเลยได้นำเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้ไปในฐานะสินค้าเพื่อเสนอขายแต่เป็นเรื่องที่จำเลยมีเครื่องขยายเสียงไว้สำหรับให้เช่าใช้โฆษณาในงานของวัดผาหด แล้วจะกลับเข้ามา แต่ในระหว่างงานเครื่องได้เกิดชำรุด จำเลยจึงขายให้แก่วัดผาหดไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าว ถือไม่ได้ว่า เครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้ เป็นสินค้าตามความหมายแห่งพระราชกฤษฎีกาควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า บางอย่าง (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2482 มาตรา 3

ย่อยาว

ได้ความว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๒๐ ถึง ๒๓ มิถุนายน ๒๕๐๐ จำเลยได้นำเครื่องขยายเสียและสิ่งอุปกรณ์ซึ่งเป็นของจำเลยมีไว้ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๕๖ สำหรับตั้งโฆษณาในงานต่าง ๆ ออกไปนอกราชอาณาจักร สู่ประเทศลาวเพื่อสานะตามประเทศลาวคนละฝั่งแม่น้ำโขงกับอำเภอเชียงคานเช่า และต่อมาเครื่องชำรุด ระหว่างงาน จำเลยจึงได้ขายเครื่องนี้ให้แก่วัดผาหดไปในราคา ๖,๒๐๐ บาท โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยชอบเพื่อการนำออกจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานนำสินค้าที่ห้ามออกไปนอกราชอาณาจักรไทย โดยมิได้รับอนุญาต
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลทั้งสอง ให้ยกฟ้องโจทก์
ปัญหาที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกามีว่า ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวข้างต้น มิใช่เป็นเรื่องจำเลยได้นำเครื่องขยายเสียและอุปกรณ์รายนี้ไปในฐานะสินค้าเพื่อเสนอขาย แต่เป็นเรื่องที่จำเลยมีเครื่องขยายเสียงไว้สำหรับให้เช่าโฆษณาในงานวัดผาหด แล้วจะนำกลับเข้ามา แต่ในระหว่างงานเครื่องได้เกิดชำรุด จำเลยจึงขายเครื่องนี้ให้แก่วัดผาหดไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าว ถือไม่ได้ว่า เครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์รายนี้เป็นสินค้าตามความหมายแห่งพระราชกฤษฎีกาควบคุม การส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่างดังที่โจทก์อ้าง

Share