แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้โอนขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายนั้น ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์
เมื่อคู่ความเสียค่าธรรมเนียมมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ในชั้นศาลล่างและศาลอุทธรณ์ ศาลล่างทั้ง 2 ก็รับข้อวินิจฉัยให้แล้วนั้น แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง ถ้าคดีนั้นมีทุนทรัพย์เกิน 2000 บาท จำเลยผู้ฎีกาเสียค่าธรรมเนียมชั้นฎีกาขึ้นมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ถูกต้องแล้ว ศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตกลงทำสัญญาจะขายที่ดินโฉนดที่ ๒๔๙๒ – ๒๔๙๓ – ๒๔๙๔ – ๒๔๙๕ – ๒๔๙๖ – ๒๔๙๗ ให้แก่โจทก์เป็นเงิน ๒๒๕๔๐ บาท ชำระเงินมัดจำให้จำเลยแล้ว ๗๘๕๐ บาท ครั้นถึงกำหนดโอนแก้ทะเบียนกันจำเลยผิดนัด ขอผัดอีก ๒ ครั้งก็ผิดนัดอีก จึงขอให้บังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินดังกล่าวแล้วแก่โจทก์และให้จำเลยรับเงินค่าที่ดินตามสัญญาเป็นเงิน ๑๔๖๙๐ บาท
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยโอนขายที่ดินแก่โจทก์ตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โจทก์แก้ฎีกาว่าคดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นด้วยลักษณะแห่งคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์เมื่อจำเลยได้เสียค่าธรรมเนียมขึ้นมาถูกต้องแล้วย่อมฎีกาได้ส่วน ข้อเท็จจริงเห็นตามศาลล่าง
จึงพิพากษายืน