คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก25ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคสอง ฎีกาว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นการกระทำที่อุกอาจและจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานมิได้ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษเป็นการโต้แย้งดุลพินิจการ รับฟังพยานหลักฐานและ ดุลพินิจการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยแก้ฎีกาว่าจำเลยกระทำผิดโดยบันดาลโทสะมิได้มีเจตนาทำร้ายโจทก์ร่วมจำเลยสำนึกผิดแล้วขอให้ลดโทษจำเลยอีก5ปีเป็นการขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต้องทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกาจะขอมาในคำแก้ฎีกาไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80,60, 91, 32, 33
จำเลย ให้การรับสารภาพ
ระหว่าง พิจารณา นางสาว กัญทิมา วีรนันท์ บุตร ผู้ตาย ทั้ง สอง และ นางสาว บังอร เจริญภูมิ ผู้เสียหาย ยื่น คำร้องขอ เข้าร่วม เป็น โจทก์ ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 (ที่ ถูก มาตรา 72 วรรคสาม )ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60, 91, 32, 33 การกระทำความผิด ของ จำเลย เป็น ความผิด หลายกรรม ให้ เรียง กระทง ลงโทษลงโทษ จำเลย ฐาน มี อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน โดย ไม่ได้ รับ อนุญาตจำคุก 1 ปี ลงโทษ ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนา จำคุก ตลอด ชีวิต ลดโทษให้ จำเลย กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลงโทษ ฐาน มีอาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต จำคุก 6 เดือนฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนา เปลี่ยน โทษ จำคุก ตลอด ชีวิต เป็น จำคุก 50 ปีลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ลงโทษ จำเลย ฐาน นี้ 25 ปี รวม จำคุก จำเลย มี กำหนด25 ปี 6 เดือน
โจทก์ร่วม ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ร่วม ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า เฉพาะ ข้อหา ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น และ ให้ ลงโทษ จำคุก จำเลย เกินกว่าห้า ปี จึง ต้องห้าม มิให้ โจทก์ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสอง ที่ โจทก์ร่วม ทั้ง สองฎีกา ว่าการ กระทำผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น ของ จำเลย เป็น การกระทำ ที่ อุกอาจและ จำเลย ให้การรับสารภาพ เพราะ จำนน ต่อ พยานหลักฐาน มิได้ ให้ ความรู้แก่ ศาล อันเป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา ไม่เป็นเหตุ บรรเทา โทษขอให้ แก้ โทษ ใน ความผิด ดังกล่าว ของ จำเลย เป็น ลงโทษ ประหารชีวิตโดย ไม่มี เหตุบรรเทาโทษ นั้น เป็น การ โต้แย้ง ดุลพินิจ ใน การ รับฟังพยานหลักฐาน และ ดุลพินิจ ใน การ กำหนด โทษ ของ ศาลอุทธรณ์ ซึ่ง เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกา ของ โจทก์ร่วม ทั้ง สอง จึง ต้องห้าม ตาม บท กฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกา ไม่รับ วินิจฉัย ให้ ส่วน ที่ โจทก์ร่วม ทั้ง สอง ฎีกา ว่าการกระทำ ของ จำเลย เป็น การกระทำ ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย ไตร่ตรองไว้ ก่อน นั้น ก็ เป็น เรื่อง ที่ โจทก์ มิได้ กล่าว ใน ฟ้อง และ ประสงค์ จะ ให้ลงโทษ มา แต่ ศาลชั้นต้น จึง เป็น ข้อ ที่ มิได้ ยกขึ้น ว่า กัน มา แล้ว โดยชอบใน ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ไม่รับ วินิจฉัย ให้ เช่นกันและ ที่ จำเลย แก้ ฎีกา ว่าการ กระทำ ของ จำเลย เกิดจาก การ บันดาลโทสะจำเลย มิได้ มี เจตนา ทำร้าย โจทก์ร่วม ที่ 2 จำเลย สำนึก ใน ความผิด แล้วขอให้ ศาล ลดโทษ ให้ จำเลย อีก 5 ปี นั้น เป็น การ ขอให้ ศาลฎีกา พิพากษานอกเหนือ คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ จำเลย ต้อง กระทำ โดย ยื่น คำฟ้อง ฎีกาจะ เพียงแต่ ขอ มา ใน คำ แก้ ฎีกา หาได้ไม่ ศาลฎีกา ไม่รับ วินิจฉัย
พิพากษายก ฎีกา ของ โจทก์ร่วม ทั้ง สอง

Share