แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยก็ดี หรือสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับบัญชีพยานของจำเลยไว้แล้วก็ดี จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวนั้นเลยเพิ่งมาโต้แย้งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยดังนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งงดสืบพยานเพื่อผลในการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226. คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับบัญชีพยานและที่สั่งเพิกถอนคำสั่งรับบัญชีพยานของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีพยานเลย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์ ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย1,500 บาท แก่โจทก์ และค่าเสียหายอีกปีละ 1,500 บาท จนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินโจทก์
จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาท
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 7 มีนาคม 2523 จำเลยยื่นบัญชีพยานเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2522 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยเพราะการยื่นไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ถึงวันนัด ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนศาลชั้นต้นสั่งให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์วันที่ 24 มีนาคม 2523
วันที่ 24 มีนาคม 2523 จำเลยยื่นคำแถลงว่า จำเลยระบุพยานไว้แล้วแต่ยังบกพร่องอยู่ ขออนุญาตระบุพยานเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตในวันเดียวกันนั้นศาลชั้นต้นสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า ที่ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติม เป็นการสั่งโดยผิดหลง ให้เพิกถอนคำสั่งนั้นเสียและไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมอย่างไรก็ตาม คดีได้เลื่อนไปแล้ว หากจำเลยจะยื่นบัญชีพยานก็ให้จัดการเสียใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายมิฉะนั้นไม่รับ ศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไป
เมื่อถึงวันนัด จำเลยยื่นคำแถลงขออนุญาตยื่นบัญชีเพิ่มเติมครั้งที่ 1อีก ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอนำพยานเข้าสืบ โจทก์แถลงคัดค้านว่าบัญชีพยานจำเลยศาลสั่งไม่รับ ศาลชั้นต้นเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานครั้งแรกแล้ว จะขอระบุพยานเพิ่มเติมไม่ได้จึงให้เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมนั้นเสีย ถือได้ว่า จำเลยมิได้ยื่นบัญชีพยานไว้เลย จำเลยจะนำพยานเข้าสืบไม่ได้ จึงสั่งงดสืบพยานจำเลย พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท ให้ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ปีละ 800 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยกับที่สั่งงดสืบพยานให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยทุกฉบับ และให้สืบพยานจำเลย แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยก็ดีหรือสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับบัญชีพยานของจำเลยไว้แล้วก็ดี จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นเลย จำเลยเพิ่งโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลย ซึ่งเป็นการโต้แย้งคำสั่งงดสืบพยานเพื่อผลในการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับบัญชีพยานและที่สั่งเพิกถอนคำสั่งรับบัญชีพยานของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเลย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น