แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอเลื่อนการพิจารณานั้น หาใช่ว่าศาลจำเป็นต้องอนุญาติให้เลื่อนเสมอไปไม่เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของศาล ที่จะพิจารณาแล้วแต่เหตุผลของคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป หากปรากฎว่าเป็นการประวิงแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งงดสืบพยานเสียได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 86
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยผิดสัญญาซื้อขาย ขอให้ศาลบังคับตามสัญญา และใช้ค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดสัญญา โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบก่อน ปรากฎว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ถึงวันนัด ทนายโจทก์ยื่นคำขอร้องขอเลื่อนอ้างว่า เพิ่งกลับจากต่างจังหวัด และป่วย ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๔๙๓ ถึงวันนัด ทนายโจทก์ขอเลื่อนอีกอ้างว่าป่วย ศาลอนุญาติให้เลื่อนไปวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ก่อนถึงวันนัด ๕ วัน ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนอีกอ้างว่า มีกิจธุระส่วนตัวจะต้องไปจังหวัดภูเก็ตกำหนดกลับภายหลังวันนัด ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๙๓ ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์แถลงขอเลื่อนอีกอ้างว่า ตัวโจทก์ป่วยเป็นโรคท้องเดินมาศาลไม่ได้ แต่จำเลยคัดค้านว่าไม่จริง ขอให้แพทย์ไปตรวจ ศาลจึงสั่งให้จำเลยนำแพทย์ไปตรวจพร้อมกับพนักงานศาล จำเลยนำพันตรีหลวงราชเวช ฯลฯ ไปตรวจแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่า โจทก์ป่วยไม่ร้ายแรงถึงกับจะไปศาลไม่ได้เพราะเป็นหวัดเล็กน้อย ศาลแพ่งจึงไม่อนุญาตให้เลื่อน คงสืบพยานโจทก์ที่นำมาเพียง ๑ ปาก เพราะโจทก์ไม่ได้ขอหมายเรียกพยาน และไม่ได้นำพยานอื่น ๆ มา จึงสั่งงดสืบพยานอื่นอีก แล้วนัดสืบพยานจำเลยต่อไปจนเสร็จแล้ว พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้สืบพยานโจทก์ใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามกระบวนพิจารณา การร้องขอเลื่อนการพิจารณานั้น หาใช่ว่า ศาลจำเป็นต้องอนุญาตให้เลื่อนเสมอไปไม่ เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณาแล้วแต่เหตุผลของคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป ในคดีนี้ปรากฎตามท้องสำนวนว่า โจทก์ขอเลื่อนมาหลายนัดแต่ละนัด โจทก์ไม่ได้ขอหมายเรียกพยานทนายและพยานนำ ก็ไม่ได้มาศาล รูปคดีมีเหตุผลส่อให้ฟังได้ว่าโจทก์ประวิงความ ศาลมีอำนาจสั่งงดสืบพยานเสียได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๘๖
จึงพิพากษายืน