คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การที่จำเลยร้องขอแก้ไขในวันชี้สองสถาน มีข้อต่อสู้เช่นเดียวกับคำให้การเดิม เพียงแต่เพิ่มเติมข้อความขึ้นโดยไม่ได้ยกข้อต่อสู้เป็นประเด็นขึ้นใหม่ทั้งเป็นข้อเท็จจริงที่รู้อยู่ก่อนแล้วซึ่งจำเลยสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขได้ก่อนวันชี้สองสถาน และข้ออ้างที่ว่าการโอนเช็คได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตก็ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้แก้ไขคำให้การได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระเงินตามเช็ค พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงวันที่ให้แก่ ส. เพื่อเป็นประกันเงินกู้ และได้ชำระหนี้แก่ ส. แล้ว โจทก์รับโอนเช็คโดยรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นการคบคิดกันฉ้อฉล

วันชี้สองสถาน จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำให้การของจำเลยที่ขอแก้ไขใหม่มีข้อต่อสู้เช่นเดียวกันกับคำให้การเดิมว่าจำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงวันสั่งจ่ายให้ ส. เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้แก่ ส. โจทก์สมคบกับ ส. ลงวันสั่งจ่ายเงินด้วยการฉ้อฉลจำเลยเพียงแต่มีข้อความเพิ่มเติมขึ้นว่ายังมีเช็คอื่นอีกสองฉบับที่จำเลยออกให้ไว้ ได้ทำหนังสือแปลงหนี้ใหม่ หนี้เงินตามเช็คจึงได้ระงับสิ้นไปแล้ว ข้อความที่จำเลยขอเพิ่มเติมนี้ไม่ได้ยกข้อต่อสู้เป็นประเด็นใหม่ ทั้งเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยรู้อยู่ก่อนแล้ว จำเลยย่อมสามารถที่จะยื่นคำร้องขอแก้ไขได้ก่อนวันชี้สองสถาน และข้ออ้างที่ว่าการโอนเช็คระหว่างโจทก์กับผู้ทรงคนก่อนได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตนั้นก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไม่ จึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยแก้ไขคำให้การ

พิพากษายืน

Share