คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเวนคืนที่ดินเพื่อขยายทางหลวงสายนี้ อธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 ดำเนินการที่อยู่ในวัตถุประสงค์และขอบอำนาจหน้าที่ของกรมทางหลวงจำเลยที่ 1 ทั้งการจ่ายเงินค่าทดแทนก็ต้องเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณแผ่นดินของกรมทางหลวง จึงถือได้ว่าการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 เป็นการดำเนินการในนามหรือแทนกรมทางหลวงจำเลยที่ 1 ด้วย เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนยังไม่พอใจเงินค่าทดแทนที่ฝ่ายจำเลยกำหนดให้ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 แล้วก็ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลตามมาตรา 26 ได้
พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 26 ไม่ได้บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าหน้าที่เวนคืนโต้แย้งหรือไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี จำเลยทั้งสองจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทนซึ่งรัฐมนตรีฯ เห็นชอบแล้ว จะฎีกาโต้แย้งในทำนองไม่เห็นด้วยหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองจ่ายค่าทดแทนที่ดินให้โจทก์เพิ่มเป็นตารางวาละ ๓๕๐,๐๐๐ บาท เนื้อที่ ๒๑๓ ๑/๑๐ ตารางวา เมื่อหักเงินส่วนที่จำเลยที่ ๑ จ่ายให้โจทก์ไปแล้วคงเหลือ ๖๕,๕๕๗,๕๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๑ ต่อปี ของต้นเงิน ๕๓,๓๗๕,๐๐๐ บาท นับจากวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๓๕ และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๑ ต่อปี นับจากวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๓๕ ของต้นเงิน ๑๒,๑๘๒,๕๐๐ บาท และให้จำเลยเวนคืนที่ดินที่เหลือรวม ๑๗ ๙/๑๐ ตารางวา ในราคาตารางวาละ ๓๕๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๖,๒๖๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๑ ต่อปี นับจากวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๓๕ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ รวมต้นเงินและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงินทั้งสิ้น ๘๑,๗๔๗,๑๖๙ บาท และให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๑ ต่อปี ในต้นเงิน ๗๑,๘๒๒,๕๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนเพิ่มอีก ๑๔,๐๗๒,๕๐๐ บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน ในต้นเงิน ๒,๖๕๗,๕๐๐ บาท , ๙,๖๒๕,๐๐๐ บาท , ๑,๗๙๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๓๕ วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๕ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๓๕ ตามลำดับ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์เฉพาะค่าขึ้นศาลให้จำเลยใช้แทนเท่าที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๕๐,๐๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืน แต่ศาลชั้นต้นมิได้ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ชัดแจ้งจึงให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารออมสินแต่ไม่เกินร้อยละ ๑๑ ตามที่โจทก์ขอ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนของจำเลยที่ ๑ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ ๑ และเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงจังหวัดหมายเลข ๓๒๖๘ สายสำโรง – บางบ่อ ตอนสำโรง – ปากคลองบางปิ้ง พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๔ มีอำนาจในการเวนคืนหรือควบคุมการเวนคืน และมีหน้าที่จ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงสายนี้เป็นการดำเนินการที่อยู่ในวัตถุประสงค์และขอบอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ทั้งการจ่ายเงินค่าทดแทนคดีนี้ก็ต้องเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณแผ่นดินของจำเลยที่ ๑ จึงถือได้ว่าการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ ๒ ดังกล่าว เป็นการดำเนินการในนามหรือแทนจำเลยที่ ๑ ด้วย เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนยังไม่พอใจเงินค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ที่ฝ่ายจำเลยกำหนดให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ แล้ว ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลตามมาตรา ๒๖ ได้
ส่วนกรณีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนเงินค่าทดแทนที่ดินที่โจทก์สมควรได้รับนั้น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๒๖ บัญญัติให้สิทธิแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนที่ยังไม่พอใจในคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีตามมาตรา ๒๕ มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล โดยไม่ได้ให้สิทธิแก่เจ้าหน้าที่เวนคืนโต้แย้งหรือไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และตามสำเนาเอกสารหมาย จ. ๓๖ ระบุว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทนได้เสนอรัฐมนตรี ฯ และรัฐมนตรี ฯ ให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทนให้จ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับที่ดินของโจทก์ทั้ง ๖ แปลง ในราคาตารางวาละ ๗๐,๐๐๐ บาท และจำเลยทั้งสองได้ให้การรับว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทนมีมติดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทน ซึ่งรัฐมนตรี ฯ เห็นชอบไปแล้ว จำเลยทั้งสองจะฎีกาโต้แย้งในทำนองไม่เห็นด้วยกับเงินค่าทดแทนที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินค่าทดแทนกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี ฯ โดยอ้างแต่เพียงว่าการกำหนดเงินค่าทดแทนที่คณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่กำหนดราคาเบื้องต้น ฯ มีเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการซึ่งมีความรู้เรื่องราคาที่ดินในเขตท้องที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นกรรมการกำหนดเงินค่าทดแทนอยู่ด้วย เงินค่าทดแทนที่คณะกรรมการเพื่อหน้าที่กำหนดราคาเบื้องต้น ฯ จึงเป็นธรรมและชอบด้วยกฎหมายแล้วหาได้ไม่…

Share