แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ของมารดาโจทก์จากจำเลยซึ่งเป็นสามีของมารดาโจทก์โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อปรากฏว่าทรัพย์เหล่านั้นไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่จำเลยร่วมแรงร่วมทุนกับมารดาโจทก์หาได้มา จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะเรียกให้แบ่งได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านางสาวสวิงโจทก์เป็นบุตรนายแสวงนางสุ่มนายแสวงตายแล้วนางสุ่มมาได้นายนุ่มจำเลยเป็นสามี แต่มิได้จดทะเบียนนางสุ่มได้ตายแล้ว เมื่อก่อนนางสุ่มตาย นางสาวสวิงและนางสุ่มได้นำข้าวเปลือกไปฝากไว้กับนายทัดจำเลย ต่อมานางสุ่มได้เอาข้าวมาขายเสียบ้างคงเหลืออยู่ 600 ถัง นางสาวสวิงไปขอข้าวเปลือกจากนายทัด ๆ ว่าจะให้นายนุ่มจำเลยตวงให้ แต่นายนุ่มจำเลยก็ไม่ยอมให้ อนึ่งเมื่อนางสุ่มยังไม่ตาย นางสุ่มได้เข้าหุ้นส่วนทำฟืนหลากับนายแนม ซื้อฟืนได้ 31 หลา เมื่อนางสุ่มตาย นางสาวสวิงจะเอาฟืนนี้มาซื้อขาย นายนุ่มจำเลยไม่ยอมให้ จึงขอให้จำเลยทั้งสองคืนข้าวเปลือก 600 ถัง และนายนุ่มคืนฟืน 31 หลา นายทัดจำเลยปฏิเสธว่าไม่เคยรับฝากข้าวเปลือกไว้จากนางสุ่ม นางสาวสวิงนายนุ่มจำเลยให้การว่า ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยควรชดใช้ค่าข้าวเปลือกหรือฟืนให้โจทก์แล้ว ก็ขอให้แบ่งให้นายนุ่มครึ่งหนึ่ง เพราะนายนุ่มนางสุ่มได้ประกอบทุนร่วมกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีไม่อาจฟังข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยได้ ข้าวและฟืนไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่นายนุ่มร่วมแรงร่วมทุนกับนางสุ่มหาได้มา นายนุ่มไม่มีสิทธิจะเรียกให้แบ่ง
พิพากษายืน