แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กล่าวในฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 3491 นั้นเป็นการพิมพ์ตัวเลขจำนวนพันผิดพลาด คือ แทนจะเป็นเลข 2 กลับเป็นเลข 3 ไป ตามทางพิจารณาที่โจทก์จำเลยนำสืบก็ดี คำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ดี ตลอดจนฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยก็ดี ปรากฎว่าปีเกิดเหตุเป็นพุทธศักราช 2491 ทั้งนั้นฟ้องของโจทก์จึงเป็นที่เห็นได้ประจักษ์ว่า โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2491 ศาลจะยกฟ้องเพราะการผิดพลาดเล็กน้อยเช่นนี้หาชอบไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๓๔๙๑ เวลากลางคืน จำเลยทั้งสามได้สมคบกันปล้นทรัพย์ของนายนาม นางสกลไป จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างฐานที่อยู่ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายเสงี่ยมจำเลย ๖ ปี ๘ เดือน ตามฟ้องจำเลยนอกนั้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับนายเสงี่ยมจำเลยด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ฟ้องกล่าวถึง พุทธศักราชว่า ๓๔๙๑ นั้นเป็นการพิมพ์ตัวเลขจำนวนพันผิดพลาด คือแทนจะเป็นเลข ๒ กลับเป็นเลข ๓ ไป ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบก็ดี จำเลยนำสืบก็ดี คำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ดี ตลอดจนคำฟ้องอุทธรณ์ของนายเสงี่ยมจำเลยเองก็ปรากฎว่าปีเกิดเหตุเป็นพุทธศักราช ๒๔๙๑ ทั้งนั้น ไม่มีผู้ใดจะเข้าใจไปว่าเกิดเหตุเรื่องนี้เป็นพุทธศักราชอื่น หรือเป็นพุทธศักราช ๓๔๙๑ ดังที่ปรากฎในฟ้อง กล่าวคือฟ้องโจทก์เป็นที่เห็นประจักษ์ว่า โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๑ ศาลยกฟ้องเสียเพราะการผิดพลาดเล็กน้อย เช่นนี้หาชอบไม่ ส่วนข้อเท็จจริงที่ฟังว่านายเสงี่ยมจำเลยทำผิดดังฟ้อง
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น