คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยอ้างกับโจทก์ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยไม่เคยขายให้โจทก์ ขอให้โจทก์ออกไปจากที่ดินพิพาท ทั้งคำฟ้องของโจทก์ก็มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายเพียงแต่ขอให้ศาลพิพากษาแสดงสิทธิว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองและเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทเท่านั้น ยังไม่มีการกระทำสิ่งใดอันจะถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)ประกอบมาตรา 246 แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมี น.ส.3 ก. จากนายบุญมาโดยตกลงจะไปจดทะเบียนภายหลัง นายบุญมาถึงแก่กรรมก่อน จำเลยซึ่งเป็นภริยานายบุญมาได้ทำสัญญาซื้อขายไว้กับโจทก์อีกฉบับแทนสัญญาซื้อขายที่นายบุญมาทำไว้ โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมากว่า 14 ปี ภายหลังจำเลยปฏิเสธว่าไม่เคยขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ และให้โจทก์ออกไปจากที่ดินพิพาท ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยให้การว่า สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะโจทก์ไม่มีสิทธิครอบครอง โจทก์ไม่ได้ฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่นายบุญมาถึงแก่กรรม ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย เพียงแต่ขอให้ศาลพิพากษาแสดงสิทธิว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองและเป็นเจ้าของในที่ดินพิพาทเท่านั้น จำเลยยังไม่ได้กระทำสิ่งใดอันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ หรือกระทำสิ่งใดอันจะถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ การที่โจทก์อ้างว่าจำเลยบอกว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยไม่เคยขายให้โจทก์ ขอให้โจทก์ออกไปจากที่ดินพิพาทนั้น ยังถือไม่ได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกิดขึ้นตามกฎหมายแพ่ง ประการสำคัญตามคำฟ้องของโจทก์เองก็ยืนยันว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินพิพาทโดยมีเจตนายึดถือเพื่อตนติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 14 ปี จนได้สิทธิครอบครองโดยชอบแล้วเช่นนี้ ย่อมแสดงว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทอยู่ก่อนแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อีก จึงถือได้ว่าตามคำฟ้องยังไม่มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246 แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้ศาลชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
พิพากษายืน

Share