คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่มีผิดแม้เพียงฐานสมรู้ ก็ต้องร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับผู้ที่มีผิดฐานเป็นตัวการด้วยเหมือนกัน
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 และ 65

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายจวนซึ่งศาลลงโทษไปแล้ว สมคบกันชิงทรัพย์นางหน๊ะ กับนายสุทิศ รวม 5,307.50 บาท ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298, 63 ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 339, 83, 84 และขอให้คืนหรือใช้ทรัพย์ที่ยังขาด 5,257.50 บาท

จำเลยปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลย แสดงว่าสมรู้เป็นใจให้นายจวนทำการชิงทรัพย์ ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานสมรู้ได้พิพากษาว่า จำเลยผิดกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 33 แต่ให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 จำคุก 4 ปี ลดฐานสมรู้ 1 ใน 3 ตาม มาตรา 65 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 5,257.50 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สงสัยคำพยานโจทก์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า ตามพฤติการณ์ของจำเลยที่ชักชวนนางหน๊ะเจ้าทรัพย์ให้นำเครื่องทองรูปพรรณไปขายที่บ้านจำเลยโดยหลอกลวงว่าจะมีคนซื้อแล้วจำเลยก็นำไป ครั้นถึงที่เปลี่ยว จำเลยหลบหน้าเสียปล่อยให้นายจวนทำการชิงทรัพย์นางหน๊ะ เช่นนี้เห็นได้ว่าจำเลยวางแผนการณ์ชิงทรัพย์มาตั้งแต่แรกทีเดียวจำเลยจึงต้องมีความผิดที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยเพียงฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ โจทก์มิได้อุทธรณ์ก็เป็นผลดีแก่จำเลยแล้ว

พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้นโดยให้ร่วมกับนายจวนคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ เว้นแต่บทความผิดฐานสมรู้นั้นให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย

Share