แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมาแต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.336 (1),334(2) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2477 ม.60,62,65
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งและวางรถจักรยานสองล้อในสนามหลวงซึ่งสาธารณะชนมีความชอบธรรมที่จะใช้เป็นทางสัญจร เป็นทางและถนนหลวงตาม ก.ม. การกระทำของจำเลยกีดขวางการจราจร และกีดกั้นทางหลวงโดยใช่เหตุ จำเลยให้ผู้อื่นเช่าจักรยานใช้ขับขี่ในลานสนามหลวงและทางเท้ารอบสนามหลวงและสามารถอาจจะเกิดอันตรายและขัดขวางแก่การไปมาของสาธารณะชน เจ้าพนักงานว่ากล่าวตักเตือนจำเลยและห้ามไม่ใช้จำเลยกระทำเช่นที่กล่าวนั้น จำเลยฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งโดยชอบด้วย ก.ม.ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๖ (๑),๓๓๔(๒) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ ม.๖๑,๖๒,๖๕
จำเลยให้การปฎิเสธความผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าสนามหลวงเป็นทางตามความหมายแพ่ง ก.ม.อาญา ม.๓๓๖ (๑) และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ ม.๖๑ พิพากษาให้ปรับจำเลยคนละ ๕๐ บาท ตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๖ (๑) ,๓๓๔ (๒) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ ม.๖๑,๖๒,๖๓
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสนามหลวงไม่มีสภาพเป็นทาง จำเลยไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้วได้ความว่าจำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่ การกระทำทั้งนี้จำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และการกระทำทั้งนี้กีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณชนใช้สัญจร แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าสนามหลวงไม่มีสภาพเป็นทางจำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม.ที่โจทก์ระบุ
ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้นั้น ศาลนี้เห็นพ้อง สนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณชนใช้สัญจรไปมา ข้อนี้เป็นความจริง แต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง ศาลอุทธรณ์ไม่ลงโทษจำเลยชอบแล้วศาลนี้พิพากษายืน