คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์หักเงินจากที่ศาลชั้นต้นบังคับให้จำเลยชำระให้โจทก์ เป็นการหักซ้ำ เพราะศาลชั้นต้นได้เคยหักเงินจำนวนนี้ไว้แล้ว ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เงินที่ศาลชั้นต้นหักเป็นคนละจำนวนกับที่ศาลอุทธรณ์หัก จึงไม่เป็นการหักซ้ำ แต่ศาลฎีกายังมีอำนาจวินิจฉัยต่อไปได้ว่า ศาลอุทธรณ์ไม่ควรหักเงินจำนวนนั้นเพราะพยานโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยติดหนี้เงินจำนวนนั้น
คำพิพากษาของศาลชั้นต้นพิมพ์จำนวนเงิน 5,312 บาทผิดเป็น 5,213 บาท ศาลฎีกาแก้ให้ถูกต้องได้เองโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกราคาปลาสวาย ซึ่งโจทก์ขายให้จำเลยรวม ๖ ครั้ง เป็นเงิน ๖,๓๕๒ บาท จำเลยต่อสู้ว่าไม่เคยติดค้างเงินเลย และสู้ข้ออื่นอีก
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยติดค่าปลาที่โจทก์ส่งให้ ๖ ครั้ง เป็นเงิน ๕,๒๑๓.๕๐ บาท (ความจริงควรเป็น ๖,๓๕๑.๕๐ บาท) ให้จำเลยชำระเงิน ๕,๒๑๓.๕๐ บาท
จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ว่าไม่เคยเป็นหนี้โจทก์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น เว้นแต่การส่งปลาครั้งที่ ๓ ซึ่งศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ได้ส่งให้จำเลยศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์ไม่ได้ส่งปลาครั้งนี้ให้จำเลย จึงพิพากษาแก้ให้ หักเงินค่าปลาครั้งนี้จำนวน ๑,๑๔๔ บาทออกเสีย คงให้จำเลย ชำระ ๔,๐๖๙.๕๐ บาท
โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกาว่าศาลอุทธรณ์หักค่าปลาครั้งที่ ๓ จำนวน ๑,๑๔๔ บาท จากจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยชำระ เป็นการหักซ้ำ เพราะศาลชั้นต้นได้หักเงินนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ศาลชั้นต้นหักค่าปลาที่ส่งกันครั้งที่ ๑ จำนวน ๑,๐๔๐ บาท ส่วนศาลอุทธรณ์หักค่าปลาที่โจทก์ส่งครั้งที่ ๓ จำนวน ๑,๑๔๔ บาท ไม่ใช่หักเงินจำนวนเดียวซ้ำสองครั้ง ดังโจทก์ฎีกา และศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า พยานโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่าโจทก์ได้ส่งปลาครั้งที่ ๓ ราคา ๑,๑๔๔ บาทให้จำเลย จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้ให้โจทก์ แต่ที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยชำระเงิน ๕,๒๑๓.๕๐ บาทนั้น เป็นการพิมพ์คำพิพากษาผิดพลาด ที่ถูกควรเป็น ๕,๓๑๒ บาท จึงให้จำเลยชำระเงิน ๕,๓๑๒ บาทให้โจทก์ โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๓

Share