คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มิได้นำสืบให้รับฟังได้ว่า ปลอกกระสุนปืนของกลางมีสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้อันจะเป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 4(2) จึงลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7,72 วรรคสอง ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนลูกซองสั้น ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงาน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 1 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับจำเลยที่ 1 ได้พาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วน และจำเลยทั้งสองกับพวกอีก1 คนที่ยังหลบหนี ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายอภิสิทธิ์ผู้ตาย 1 นัด โดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนถูกบริเวณหน้าอกเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 นัด และยึดหัวกระสุนปืนลูกซองจากศพผู้ตาย 3 หัว เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 371, 83, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ,72, 72 ทวิ และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7,72 วรรคสอง ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจำคุก 20 ปี ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก3 เดือน รวมเป็นจำคุก 20 ปี 3 เดือน ริบปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนของกลาง ฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยก
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 ด้วยปลอกกระสุนปืนของกลางไม่ริบ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมามีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายหรือไม่ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ส่วนในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น แม้จำเลยที่ 1 จะนำสืบรับเข้ามาว่า จำเลยที่ 1 พบปลอกกระสุนปืนของกลางซึ่งตกหล่น อยู่ที่พื้นจึงเก็บมาไว้ในครอบครอง แต่โจทก์ก็มิได้นำสืบให้รับฟังได้ว่าปลอกกระสุนปืนของกลางดังกล่าวมีสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้อันจะเป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 4(2) จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ในข้อหาความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคสอง ไม่ได้
พิพากษายืน

Share