คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอระบุพยานเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเข้าใจผิดว่าได้ระบุพยานนั้นไว้แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตโดยมิได้วินิจฉัยถึงเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3เป็นการทำให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ คำสั่งของศาลชั้นต้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์นำยึดเรือนและที่ดินของผู้ร้องโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการยึด

โจทก์ให้การว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลย ผู้ร้องสมคบกับจำเลยคิดฉ้อโกงโจทก์

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วสั่งว่าเรือนและที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเรือนและที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องพิพากษากลับให้ปล่อยเรือนและที่ดินที่โจทก์ยึดมา

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาให้ศาลรับบัญชีระบุพยานของโจทก์นั้น ปรากฏว่าโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอระบุพยานเพิ่มเติมโดยอ้างว่าเข้าใจผิดว่าได้ระบุพยานนั้นไว้แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตโดยมิได้วินิจฉัยถึงเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3 เป็นการทำให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ คำสั่งศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเรือนและที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง

พิพากษายืน

Share