คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดเพราะมีประเด็นโต้เถียง ซึ่งยังมิได้รับการวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาทหรือไม่ เป็นคำสั่งที่ชอบ
ศาลสั่งให้งดการขายทอดตลาดไว้จนกว่าจะสั่งเปลี่ยนแปลงตามคำขอของคู่ความหรือตามที่ศาลจะเห็นสมควร จึงเป็นเรื่องที่คู่ความจะร้องขอให้ศาลดำเนินการต่อไป

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้องต่อมาโจทก์ร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยชำระหนี้โจทก์ได้นำยึดทรัพย์จำเลยไว้จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่าโจทก์ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์นั้น เพราะโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงเรื่องหนี้สินตามคำพิพากษานั้นแล้ว และโจทก์ยังได้ทำบันทึกตามสำเนาท้ายคำร้องจำเลยเกี่ยวกับการชำระหนี้ตามคำพิพากษานั้น

โจทก์ยื่นคำแถลงว่าบันทึกการชำระหนี้ท้ายคำร้องของจำเลยเป็นความจริง แต่บันทึกนี้มุ่งใช้เฉพาะจำเลยที่ 1 เท่านั้นไม่หมายบังคับถึงจำเลยที่ 2 ด้วยขอให้ศาลยกคำร้องของจำเลย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รูปคดีฟังได้ว่าได้มีการตกลงรับชำระหนี้กันตามในบันทึกนั้นจริง และยังมีประเด็นซึ่งจำเลยยังให้การถกเถียงปฏิเสธอยู่ จึงเป็นปัญหาที่คู่ความจะต้องจัดการให้เป็นไปตามกฎหมาย มิใช่เรื่องที่ศาลจะวินิจฉัยในชั้นนี้ จึงมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่โจทก์ได้ยึดไว้จนกว่าศาลจะได้สั่งเปลี่ยนแปลงต่อไปตามคำขอของคู่ความหรือตามที่ศาลเห็นสมควร

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนเพราะยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่ว่าโจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาทหรือไม่ และศาลยังมิได้วินิจฉัยสั่งในประเด็นที่โต้เถียงกันนี้ เป็นคำสั่งที่ชอบ และการที่ศาลชั้นต้นให้งดการขายไว้จนกว่าศาลจะสั่งเปลี่ยนแปลงต่อไปตามคำขอของคู่ความหรือตามที่ศาลเห็นสมควร เห็นได้ว่าจะต้องมีการไต่สวนเพื่อฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป จึงเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้ดำเนินการต่อไปได้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาชอบแล้ว

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share